สืบนครบาล รวบคู่หูอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ผันตัวเป็นเอเย่นต์ขายซิมม้าและบัญชีม้า ตัดวงจรมิจฉาชีพ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 16 มิ.ย. 67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.ธนพล มโนษร, ร.ต.อ.ปฏิภาน ไกรลาศฉิมพลี รองสว.กก.วิเคราะห์ข่าว นำกำลังจับกุม น.ส.กฤษณา เผือกจันทึก อายุ 25 ปี และ น.ส.นภัสสร ลิขิตสกุลชัย อายุ 28 ปี

พร้อมของกลาง ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่ายเอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว รวม 10 ซิม ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่ายเอไอเอส ที่ยังไม่มีการลงทะเบียน 490 ซิม สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมซึ่งลงทะเบียนผูกบัญชี เปิดบัญชีโดย นายอุทัย 1 ชุด สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมซึ่งลงทะเบียนผูกบัญชี เปิดบัญชีโดย น.ส.อารียา 1 ชุด โทรศัพท์มือถือไอโฟน รุ่น 11 โปรแม็กซ์ สีเขียว 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือซัมซุง รุ่นเอ 12 สีน้ำเงิน 1 เครื่อง

แจ้งข้อหา ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ และร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขาย ให้เช่า ให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ (เป็นธุระจัดหา จำหน่าย ซิมม้า, บัญชีม้า) โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนสาธารณะ ซอยอรรถกระวี แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.

...

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วโดยบุคคลอื่นพร้อมใช้ และบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ให้สายลับติดต่อล่อซื้อพูดคุยกันผ่านข้อความแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ตกลงซื้อขายซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่ายเอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว 500 ซิม ราคา 55,000 บาท และสมุดบัญชี พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมซึ่งผูกบัญชี 2 บัญชี ราคา 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 75,000 บาท จากนั้นติดต่อกันผ่านโทรศัพท์นัดหมายจุดส่งของ แต่ผู้ลักลอบแจ้งว่าโทรศัพท์แบตจะหมด ให้ติดต่อกันผ่านข้อความแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กให้มาพบกันที่หน้าร้านนิฮงมาชิ ซอยอรรถกระวี แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. ต่อมามีรถยนต์สีดำขับขี่มาจอดบริเวณที่นัดหมาย ทราบภายหลังเป็นแกร็บคาร์ และมี น.ส.กฤษณา อายุ 25 ปี ลงมาจากรถ และ น.ส.นภัสสร อายุ 28 ปี เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กติดต่อกัน นั่งคอยอยู่บนรถ น.ส.กฤษณา ถือกล่องลังกระดาษลังมาพบกับสายลับ พบว่าภายในกล่องดังกล่าวมีซิม 500 ซิม และสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมซึ่งผูกกับบัญชีดังกล่าว 2 ชุด เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม

ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าทั้งคู่ได้เคยไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน น.ส.กฤษณา หรือ เก๋ ไปอยู่มา 2 ปี แล้วหนีกลับมา ผันตัวมาขายซิมโทรศัพท์ ส่วน น.ส.นภัสสร หรือ อัพ ตามเก๋ไปภายหลังแต่อยู่ได้ไม่ถึงเดือนไม่โอเคจึงได้กลับมา

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกลวงให้เปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า)และเปิดซิมโทรศัพท์มือถือเพื่อไปใช้ในการกระทำผิด แลกกับค่าจ้างเพียงไม่กี่บาท ซึ่งคนร้ายจะนำซิมการ์ดที่ได้ไปใช้ในการกระทำความผิด เช่น ใช้โทรศัพท์ไปหลอกลวงเหยื่อ, ใช้ประกอบการเปิดระบบธนาคารออนไลน์ หรือเปิดกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรอรับเงินโอนจากการหลอกลวงเหยื่อหรือรับโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด, ใช้ผูกกับบัญชีสื่อสังคมออนไลน์แล้วนำไปใช้กระทำความผิด ซึ่งตามกฎหมายนั้นผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก (คนเปิดบัญชีม้า) บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์ (คนเปิดซิมม้า) สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.