บช.ก.แจงปมร้อน ส.ต.ท. เสียชีวิต ขณะฝึกหลักสูตรคอมมานโด ยันสาเหตุปัญหาสุขภาพไม่ได้ถูกครูฝึกทำร้าย พร้อมเร่งเยียวยาครอบครัว รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่า “ตายในหน้าที่”
จากกรณีเพจ ‘เพื่อนตำรวจ’ โพสต์เหตุการณ์ที่ตำรวจนายหนึ่งทราบชื่อต่อมาคือ ส.ต.ท.รัฐพงษ์ เศรษฐกิจ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปพ. เสียชีวิตด้วยภาวะไตวายและฮีตสโตรกขณะเข้ารับการฝึกหลักสูตรปฏิบัติการพิเศษของตำรวจคอมมานโด พร้อมเผยแพร่ข้อความในลักษณะอ้างว่ามีการสั่งให้ปิดเรื่อง ก่อนส่งศพให้กับทางญาติเร่งนำไปประกอบพิธีศาสนา จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสื่อสังคมออนไลน์ ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน 2567 พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว หลังเกิดเรื่อง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งให้ตนเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า ก่อนหน้านี้ ส.ต.ท.รัฐพงษ์ หรือ ผู้ตาย เคยเข้ารับการฝึกหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายค่ายนเรศวรมาก่อนแต่ฝึกไม่จบ เนื่องจากติดปัญหาสภาพร่างกายเกี่ยวกับไต
“แต่ด้วยความตั้งใจที่อยากจะผ่านการฝึกอบรมสักหลักสูตร จึงสมัครคัดเลือกเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรปฏิบัติการพิเศษ สยบริปูสะท้าน ของตำรวจคอมมานโด เดิมที ส.ต.ท.รัฐพงษ์ มีชื่อติดอยู่ในกลุ่มรายชื่อสำรองของผู้ที่จะเข้ารับการอบรม ก่อนที่ต่อมาจะมีผู้เข้ารับฝึกตัวจริงรายหนึ่งถอนตัวจึงทำให้ ส.ต.ท.รัฐพงษ์ ได้รับคัดเลือกให้เข้ารับการฝึกแทน”
พล.ต.ต.ภูมินทร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ในระหว่างที่ ส.ต.ท.รัฐพงษ์ เข้ารับการฝึก ไม่มีการซ้อมหรือทำร้ายร่างกายจากครูฝึกแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพ หลังเกิดเหตุมีการนำตัวส่ง รพ.ปากเกร็ด เป็นโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยทันที เพื่อเข้ารับการรักษาเป็นการด่วน ก่อนจะถูกส่งตัวไปรักษาต่อยัง รพ.ตำรวจ พักรักษาตัวอยู่ร่วมสัปดาห์จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเสียชีวิตขณะฝึกตามที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้แต่อย่างใด
...
“จากเรื่องที่เกิดขึ้น บช.ก. เองรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียบุคลากรตำรวจดีๆ เช่นนี้ จึงได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ท.รัฐพงษ์ เร่งประสานเยียวยาสภาพจิตใจของคนในครอบครัว ส.ต.ท.รัฐพงษ์ เป็นการด่วน พร้อมกำชับให้ช่วยเหลือดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ทางครอบครัวควรได้รับให้ได้มากที่สุด เพราะการเสียชีวิตในขณะฝึก เหมือนกับการเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงกำชับให้เร่งหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก”