กองปราบฯร่วมเอฟบีไอค้นบ้านพักคอนโดหรู 4 แห่ง ใน จ.ชลบุรี ยึดทรัพย์เงินสดไทยและต่างประเทศ นาฬิกาหรู เครื่องประดับ บัญชีธนาคาร โฉนดที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ มูลค่านับพันล้านบาท หลังเอฟบีไอร่วมกับตำรวจสิงคโปร์จับนายหยุน เหอ วัง หัวโจกชาวจีนได้เมื่ออาทิตย์ก่อน แฉเป็นองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก เจาะระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าไถ่ -แฮ็กระบบเงินสวัสดิการรัฐ สร้างความเสียหายกว่า 190 ประเทศ

ขยายผลยึดทรัพย์พันล้านหัวโจกอาชญากรไซเบอร์ระดับโลก เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก. ปอท.ร่วมสั่งการ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.กก.2 บก.ป.ร่วมกับ นายไมค์ ไช่ เจ้าหน้าที่ FBI ประจำประเทศไทย นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านพัก ถนนพระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และห้องพักในคอนโดมีเนียมอีก 3 ห้อง พื้นที่ ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

...

จากการตรวจค้นพบเงินสดสกุลเงินไทยและต่างประเทศ 7.5 ล้านบาท นาฬิกาหรู 13 เรือน โดยมีนาฬิกา โอเดอะมาร์ส ปิเกต์รวมอยู่ด้วย 3 เรือน รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เครื่องประดับ 23 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทรถยนต์ BMW X7 M50d สีดำ 1 คัน โฉนดที่ดินและสัญญาซื้อขายที่ดินคอนโดจำนวนหนึ่ง บัญชีธนาคารนาย หยุน เหอ หวัง อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาชาวจีน และบริษัท Spicy Code อุปกรณ์บันทึกข้อมูล บันทึกข้อมูลคีย์การเข้ารหัส หรือรหัสผ่านการเข้ารหัส จึงตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมด รวมทั้งนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินการ

สืบเนื่องจากทางการสหรัฐอเมริกาขอความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อจับกุมเครือข่ายอาชญา กรรมไซเบอร์ ระบุขอให้ตรวจสอบและหาพยานหลักฐานของนาย หยุน เหอ ผู้ต้องหาชาวจีนพร้อมพวกเป็นอาชญากรออนไลน์ระดับโลก สร้างความเสียหายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ ฉ้อโกงผ่านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และฟอกเงินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมมือกันหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและสิงคโปร์ เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้อุปกรณ์ติดตั้งมัลแวร์ ร่วมกับเครื่องมือปกปิดที่อยู่ของเครือข่ายอาชญากร เรียกกันว่า 911 S5 ซึ่งนายหยุน เหอ หวัง พร้อมพวกชาวจีน เป็นผู้ก่อตั้งและดูแลระบบหลักของ 911 S5 ทั้งหมด ส่วนที่เหลือทำหน้าที่ดูแลเอกสารธุรกรรมทางเงิน และตั้งบริษัทขึ้นมาฟอกเงิน 3 แห่งตั้งอยู่ในประเทศไทย

จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายของผู้ต้องหาได้แฮ็ก IP Address ของคอมพิวเตอร์ 19 ล้านเครื่อง ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก สร้างความเสียหายมหาศาล และยังโกงเงินจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอีกจำนวนมาก ด้วยการแฮ็กเข้าคอมพิวเตอร์ชาวอเมริกันทำเรื่องขอความช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการต่างๆ แต่เมื่อหน่วยงานรัฐอนุมัติเงินช่วยเหลือ กลับโอนเข้าบัญชีของอาชญากรโดยที่ชาวอเมริกันคนนั้นไม่ทราบเรื่องและไม่ได้รับเงินดังกล่าว นอกจากนี้ยังแฮ็กเข้าไปขโมยเงิน เหรียญคริปโตฯโจมตีทางไซเบอร์ เรียกค่าไถ่ (Ransomeware) ด้วยการปิดกั้นการทำงานขององค์กรใหญ่ และเรียกค่าไถ่แลกกับการให้ระบบกลับมาใช้งานได้ดังเดิม

นอกจากนี้คนร้ายยังใช้เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์จากภาพอนาจารของเด็ก การขู่วางระเบิด สร้างความตื่นตระหนกให้คนทั่วไปด้วย ขณะเดียวกันยังได้ฟอกเงินที่ได้จากการกระทำความผิดได้กำไรหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะ ทรัพย์สินอื่นๆในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย

สำหรับทรัพย์สินที่กลุ่มคนร้ายได้จากการกระทำความผิดมาแปรสภาพทรัพย์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่นายหยุน เหอ หวัง ตัวหัวโจกถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศสิงคโปร์ และเจ้าหน้าที่ FBI ร่วมกันจับกุมไว้แล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่