ตำรวจ ตม.บุกรวบหนุ่มแดนมังกรตุ๋นขายไวน์หายาก เชิดเงินเหยื่อกว่า 10 ล้านบาท เผ่นหนีจากจีนมากบดานอยู่เมืองไทยนานกว่า 1 ปี ยึดอาชีพไกด์นำเที่ยวไพรเวตทัวร์กลุ่มชาวจีนที่เข้ามาติดต่อธุรกิจในไทย ชุดสืบสวนพบพฤติกรรมต้องสงสัย เฝ้าสะกดรอยติดตามก่อนบุกรวบตัวขณะพาลูกค้าเข้าเช็กอินโรงแรมหรูย่านรัชดา พบวีซ่าหมดอายุตั้งแต่เดือน ก.พ. ดำเนินคดีข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีน
ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 พ.ค. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ รอง ผบก.ตม.1 พ.ต.ท.วิรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.ท.ธงชัย ไพเราะ สว.กก.สส.บก.ตม.1 พ.ต.ท.หญิง ทิวาพร รุ่งโรจน์ สว.ตม.สมุทรสาคร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายต้วน เจินหมิง อายุ 42 ปี หนุ่มแดนมังกรจีน ตุ๋นเงินเหยื่อกว่าสิบล้านบาทหนีซุกไทย
ทั้งนี้สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายคนจีนมีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าทำงานและอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย สืบสวนทราบชื่อคือนายต้วน เจินหมิง อายุ 42 ปี สัญชาติจีน พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมย่านรามคำแหง กทม. ตำรวจเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนพบว่านายต้วนจะเดินทางออกจากคอนโดมิเนียมไปรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน พาไปที่พักและช่วยประสานงานกับสถานที่ต่างๆในลักษณะ ไพรเวตทัวร์ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาติดต่อธุรกิจที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องการท่องเที่ยวในรูปแบบของบริษัทนำเที่ยว
เมื่อตำรวจชุดจับกุมได้พยานหลักฐานครบองค์ประกอบความผิด ได้แสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารขณะที่นายต้วนกำลังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการเช็กอินโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก จากการตรวจสอบพบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.67 จึงจับกุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
...
นอกจากนี้ตำรวจ ตม.ได้ประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับแจ้งว่านายต้วน เจินหมิง ผู้ต้องหารายนี้มีประวัติกระทำความผิดฐานฉ้อโกงวิสาหกิจในประเทศจีน เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือน ม.ค.66 โดยแอบอ้างตนเป็นผู้จัดการฝ่ายขายประจำเขตของบริษัทไวน์แห่งหนึ่ง ไปติดต่อเสนอขายไวน์หายากมูลค่าสูงให้กับผู้ค้าปลีกหลายราย หลอกว่าได้รับสิทธิส่วนลดพิเศษ 10% ชักจูงให้เหยื่อโอนเงินค่าสินค้าไปยังบัญชีธนาคารของตนเองรวมเกือบ 2 ล้านหยวน หรือกว่า 10 ล้านบาท และไม่ได้จัดหาไวน์ให้ได้จริง แต่กลับตัดการติดต่อกับผู้เสียหายทั้งหมด
หลังก่อเหตุผู้ต้องหาเดินทางหลบหนีออกจากจีนมากบดานที่ประเทศไทย ยึดอาชีพไกด์นำเที่ยวไพรเวตทัวร์สำหรับกลุ่มนักธุรกิจชาวจีน ต่อมาสำนักงานมั่นคงสาธารณะ เมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ได้ออกหมายจับและเพิกถอนหนังสือเดินทาง กระทั่งตำรวจ ตม.ไทยตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัยเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนจะตรวจพบประวัติก่อคดีที่ประเทศบ้านเกิด นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดี ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนต่อไป