"ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี" พร้อมด้วย ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บช.ก. สภ.ไทรโยค ตชด.136 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี กก.สส.จว.กาญจนบุรี ทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมกันจับกุมหนุ่มบ่อพลอย 2 คน ช่วยกันลักลอบขนแรงงานต่างด้าว 8 คน พร้อมผู้ติดตาม 1 คน เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. สั่งการให้ พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.อำนวยการจับกุม 

โดยมี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล, ร.ต.อ.พินัย บุญรัตน์, ร.ต.ท.กุศล ยะฟั้น, ร.ต.ต.พีรธรรม หนูนุรัตน์, ร.ต.ต.ชรินทร์ อ้นมั่น, ร.ต.ต.สุรศักดิ์ จิตมณี, ด.ต.สายชล เชื้อทอง, ด.ต.ปกรณ์ สิทธิศักดิ์, จ.ส.ต.อภิสิทธิ์ ชูสุข, ส.ต.อ.ภาคิณ คูณสิทธิกุล, ส.ต.อ.ธเนศพล ภมร ร่วมกับ สภ.ไทรโยค, ตชด.ที่136, ตม.จว.กาญจนบุรี, กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี, ทหาร ฉก.ลาดหญ้า ค่ายสุรสีห์, ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมกันจับกุม 

1.นายอดิเรก อินทร์สวัสดิ์ อายุ 32 ปี ที่อยู่ 399/4 หมู่ 1 ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2.นายณัฐวุฒิ ชมยงค์ อายุ 17 ปี ที่อยู่ 427 หมู่ 2 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ต้องหาที่ 2 จับแรงงานต่างด้าว 8 คน และผู้ติดตาม 1 คน ตรวจยึดของกลาง 1.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กม 7825 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน 2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง จับกุมได้ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 124-125 หมู่ 8 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

...

พฤติการณ์เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจอยู่ภายในพื้นที่เขตรับผิดชอบ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุอาชญากรรม การลักลอบขนยาเสพติด และลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ในขณะที่ออกตรวจได้รับแจ้งจากชุดเฉพาะกิจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บช.ก. ว่าจะมีการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวโดยใช้รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กม 7825 กาญจนบุรี เมื่อไปถึงบริเวณ ทล.323 กม.124-125 หมู่ 8 ต.ท่าเสา ได้พบรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กม 7825 กาญจนบุรี ซึ่งตรงตามที่ได้รับแจ้ง มุ่งหน้ามาทางอำเภอทองผาภูมิ มุ่งหน้าอำเภอเมืองกาญจนบุรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ แต่เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวได้เห็นเจ้าหน้าที่ชุดจับไม่ยอมหยุดรถ และพยายามวนรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสงสัยว่าอาจจะแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป 

จนกระทั่งมาถึงบริเวณ ทล.323 กม124-125 หมู่ 8 ต.ท่าเสาฯ ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวได้หยุดรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจำนวน 8 คน (ชาย 5 คน, หญิง 3 คน ) และผู้ติดตาม จำนวน 1 คน (หญิง 1 คน) พบว่าต่างด้าวนอนอยู่ท้ายกระบะ 6 คน และต่างด้าวนั่งในรถกระบะอีก 2 คน 

สอบถามผู้ต้องหาที่ 1-2 รับว่าตนนั้นได้รับจ้างจากนายโค้ก ไม่ทราบชื่อจริงนามกุลจริง ชาวเมียนมา อายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งอาศัยอยู่อำเภอทองผาภูมิ ได้จ้างวานตนนั้นให้พาแรงงานต่างด้าวไปส่งที่ภายในตัวเมืองกาญจนบุรี โดยผู้ต้องหาที่ 1-2 ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดบริเวณท่าน้ำทองผาภูมิ และนายโค้ก มาขับรถยนต์คันดังกล่าวไปรับแรงงานต่างด้าว บริเวณหมู่บ้านท่าแพ (ไม่ทราบจุดที่รับ) จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2 ได้ขับรถคันดังกล่าวมาถึงบริเวณวัดเขาเข้เทพนิมิต ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค ได้ให้ผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถคันดังกล่าวแทนผู้ต้องหาที่ 2 โดยจะให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงินครั้งละ 3,000 บาท ซึ่งทำมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง

และได้ทำการตรวจสอบนายเมง โซ ผู้ต้องหาที่ 5 สามารถพูดและรับฟังภาษาได้ จึงได้ให้แรงงานต่างด้าวทุกคนแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารประจำตัวใดๆ มาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 9 คน ไม่สามารถนำบัตรประจำตัวหรือเอกสารใดๆ มาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบได้และยังไม่เคยได้รับเอกสารประจำตัวใดๆ จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 3-11 ให้การยอมรับว่า พวกตนได้เดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา 

...

มาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อที่จะเข้าไปทำงานในตัวเมืองชั้นใน โดยจะเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้า ประมาณคนละ 13,000 ถึง 17,000 บาท จะจ่ายก็ต่อเมื่อเดินทางถึงที่หมาย โดยผู้ต้องหาที่ 3-11 จะเดินทางไปยัง จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดภูเก็ต 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาที่ 1 ทราบว่าพฤติการณ์และการกระทำของตนนั้นเป็นความผิดและจะต้องถูกจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า ผู้ต้องหาที่ 1-2 กระทำความผิดฐาน (ข้อหา) “ร่วมกันช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ให้การรับสารภาพ และผู้ต้องหาที่ 3-10 กระทำความผิดฐาน (ข้อหา) “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และผู้ต้องหาที่ 11 นำส่ง ตม.กาญจนบุรี เพื่อผลักดันกลับประเทศเมียนมาต่อไป และควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.