ขอนแก่น เจ้าของร้านอาหารสุดเอือมพฤติกรรม "จ่าแซม" ตำรวจเมากร่าง อาละวาด ระราน พ่นควันบุหรี่ใส่หน้าลูกค้า ข่มขู่ไล่ออกจากร้าน ล่าสุด ผกก.สภ.บ้านเป็ด ชี้ภาพรวมถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม สั่งตั้ง กก.สอบวินัยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบมีประวัติป่วยจิตเวชจริงหรือไม่

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ณชรต แก้วเพชร ผกก.สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ถึงกรณีนางสุนิตราหรือนางเก่ง อุไกรษา อายุ 50 ปี เจ้าของร้านครัวคุณเก่งและร้านเล่าหมูกระทะ เลขที่ 396/1 ม.2 บ้านเป็ด ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจชื่อ จ่าแซม หรือ ส.ต.อ.ธนาธิป รัชโพธิ์ ข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านเป็ด เนื่องจากจ่าแซม มีพฤติกรรม ระรานทางร้านและลูกค้าของร้านมาหลายครั้ง จนลูกค้าไม่กล้าเข้ามาใช้บริการในร้าน 

ทั้งกรณีที่สามีนางเก่ง เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับ จ่าแซม หรือ ส.ต.อ.ธนาธิป รัชโพธิ์ ข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ที่ด่าหยาบคาย และเรียกร้องให้ย้ายจ่าแซมออกนอกพื้นที่ เพราะถ้าปล่อยไว้จะทำมาหากินลำบาก

ผกก.สภ.บ้านเป็ด กล่าวว่า กรณีจ่าแซมนั้น ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนั้น ยอมรับว่า ข้าราชการไม่ควรประพฤติเช่นนั้น เพราะมันไม่เหมะสม ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับจ่าแซมต่อไป

ในกรณีที่ว่า จ่าแซม ป่วยจิตเวชและได้รับการรักษามาแล้วนั้น ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน เพราะต้องเรียกพ่อแม่จ่าแซมมาสอบสวนก่อนว่า จ่าแซมป่วยจิตเวชหรือไม่ ถ้าป่วยจริงก็มีการพิจารณาต่อไปว่าควรจะรับราชการต่อหรือต้องส่งตัวไปรักษา ซึ่งขณะนี้ในลำดับบังคับบัญชานั้น ไม่เข้าข้างหรือไม่มีการดึงเรื่อง ข้าราชการประพฤติไม่เหมาะสม หรือทำผิดก็ควรจะะถูกพิจารณาโทษเช่นกัน

...

ผกก.สภ.บ้านเป็ด กล่าวต่ออีกว่า การป่วยจิตเวชนั้น ต้องมีผลตรวจจากแพทย์ยืนยันประกอบการพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่ามีการไปตรวจที่ รพ.ธัญญารักษ์ รับยามากิน แต่กินหรือไม่กินตามหมอสั่งหรือไม่ เราก็ไม่ทราบ เพราะเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล โดยในส่วนของจ่าแซมนั้น ทราบว่าไปที่ รพ.ธัญญารักษ์ เมื่อ 2 เดือนก่อน 

ส่วนพฤติกรรมที่เกิดขึ้น สร้างความเดือดร้อนรำคาญกับประชาชนนั้น ผู้บังคับบัญชาก็ได้สังเกตเห็นอาการและมีการบอกเล่าจากเพื่อนร่วมงานและบุคคลอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน จึงแนะนำให้จ่าแซมไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษา และได้แจ้งให้ พ่อแม่ของจ่าแซมทราบแล้วเช่นกัน 

ในส่วนการสร้างปัญหากับประชาชนนั้น ตามข้อมูลที่รับรายงานมา ทราบว่าจ่าแซมจะเข้าไปในร้านอาหารด้วยอาการปกติ เหมือนเช่นลูกค้าทั่วไป แต่พอดื่มสุราเข้าไปก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ โดยเมื่อทางร้านทราบพฤติกรรม ก็มีการป้องกันตัวเองไม่จำหน่ายสุราให้ และผู้บังคับบัญชาได้เรียกตัวมาตักเตือนแล้ว พร้อมให้ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ซึ่งเจ้าตัวก็รับทราบและเข้าใจแล้ว ส่วนร้านอาหารก็ไม่เข้าไปอีก แต่ก็ยังมีเวลาที่จ่าแซมเมา ก็จะแอบเข้าไป ในภาพรวมถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม ซึ่งจะต้องเรียกพ่อแม่จ่าแซมมาพบอีกครั้ง

ในส่วนของการทำงานที่ช่วยพนักงานสอบสวนนั้น ไม่ต้องพกพาอาวุธปืน  เพราะลักษณะงานที่ได้รับมอบหมายไม่ต้องใช้ปืน ส่วนปัญหากับเพื่อนร่วมงานนั้น ไม่ปรากฏว่ามีในลักษณะที่มีเรื่องมีราวกัน ในส่วนของผู้เสียหายนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับจ่าแซมแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน ทำการตรวจสอบ หากพบมีการกระทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ หากเป็นความผิดทางวินัยด้วยก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่อไป.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเก่ง ให้ข้อมูลว่า ครอบครัวทำมาหากินอาชีพสุจริต เปิดร้านขายอาหาร หมูกระทะ เพื่อความอยู่รอดและไม่มีปัญหากับใคร ไม่สร้างปัญหากับคนในสังคม โดยเปิดร้านมาร่วม 2 ปี ก็เงียบสงบดี 

แต่ช่วงปีใหม่เป็นต้นมา ก็มีจ่าแซม ตำรวจสภ.บ้านเป็ด ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน เดินมาซื้อสุรา และนั่งดื่มในเวลาทำงานเป็นประจำ แต่ทุกคนก็ไม่มีใครใส่ใจ ต่อมาในช่วง 1-2 เดือนนี้ จ่าแซมมีอาการหนัก เพราะทางร้านไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ เจ้าตัวน่าจะไม่พอใจ ไปดื่มจากที่อื่นมา จนมีอาการเหมือนคนเมา เข้ามาระรานในร้าน สูบบุหรี่พ่นควันใส่หน้าลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้าน และขู่ลูกค้า ไล่ลูกค้าออกจากร้านทั่งที่ทางร้านยังเปิดให้บริการอยู่ จนลูกค้าหวาดกลัว ต้องรีบเช็กบิลจ่ายเงินและกลับออกจากร้านไป

ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา จ่าแซม ยืนอยู่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวที่ติดกับร้านตน แล้วได้ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายต่างๆ นานา ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย จึงให้ นายชายชัย คำวิเศษ อายุ 40 ปี สามี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วรวัฒน์ อักษร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ด และขอเข้าพบผู้บังคับบัญชาของจ่าแซม ซึ่งทราบจากผู้บังคับบัญชาว่า จ่าแซมป่วยทางจิตเวชมานาน เคยเข้ารับการรักษา และรับยามากิน แต่ไม่ทราบสาเหตุว่า เกิดอาการทั้งหมดได้อย่างไร

“ส่วนตัวเห็นว่า จ่าแซม หากป่วยจิตเวช ก็ไม่สมควรจะรับราชการต่อไป ผู้บังคับบัญชาควรพิจารณาโทษ หรือให้ออกจากราชการ หรือย้ายไปที่อื่น เพราะไม่เช่นนั้น ประชาชนผู้ทำอาชีพสุจริตจะอยู่ยาก ค้าขายไม่ได้ ขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่โดยเร็ว”