“ภาพลักษณ์ของตำรวจที่ติดลบเป็นเรื่องจริง และการมีข่าวตำรวจพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะทำให้ตำรวจถูกเหมารวม แต่ยืนยันว่าตำรวจที่ดีมีจำนวนมาก” ความในใจ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.

ภารกิจหนักอึ้งบทบาทผู้นำหน่วยในสถานการณ์เสื่อมถอยขององค์กรสีกากีถูกรุมประณามกับข้อมูลที่ตำรวจอดีตตำรวจเปิดโปงเครือข่าย “บิ๊กตำรวจ” พัวพันผลประโยชน์ “ธุรกิจสีเทา” ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือเท็จหรือไม่

ทยอยออกมาให้ข่าวปล่อยประเด็นรายวัน ยิ่งทำให้ผู้คนเห็นคล้อยตาม จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ “สื่อออนไลน์” เดิมที่มีตำรวจ “นอกแถว” ทำความเสียหาย แต่ไม่หนักหนาสาหัสเหมือนเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ส่งผลกระทบโดยตรงกับความเชื่อมั่นศรัทธาของพี่น้องคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การเข้าตรวจค้นจับกุมชุดทำงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ข้อหาหนักพัวพัน “เว็บพนันออนไลน์” ปมชนวนแรกเหตุขัดแย้งรุนแรง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มีสงครามตัวแทนออกมาเปิดโปงฝ่ายตรงข้าม และมีการใช้ช่องทางกฎหมายเข้ามาต่อสู้หักล้างคดี

...

พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ 3 ครั้ง ก่อนขออนุมัติออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวว่า พร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

นำมาสู่ข้อมูลทนายเปิดโปงลูกทีม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ หน่วยงานใหญ่ตำรวจ และตำรวจอีกมากพัวพันเส้นเงิน “พนันออนไลน์” เข้าข่ายลักษณะเดียวกับคดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และตำรวจลูกทีม

ลุกลามบานปลายสุดท้าย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่มีทางเลือกมีคำสั่งด่วนให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี และสั่งตำรวจให้ “มูฟออน” เหตุขัดแย้ง

เหมือนยิ่งเติมเชื้อปะทุไฟสีกากี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเหตุขัดแย้ง “บิ๊กสีกากี” แถลงว่า การตรวจสอบเบื้องต้นมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาลเชื่อว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง รอผลตรวจสอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่าจะให้แล้วเสร็จใน 60 วัน

พล.ต.อ.วินัย ซึ่งรับบทผู้ชี้ขาด 2 บิ๊กสีกากีที่มากบารมียืนยันว่า “คณะกรรมการชุดนี้จะพยายามฟื้นความศรัทธาให้องค์กรตำรวจด้วยการทำงานอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”

ไม่น่าเชื่อเพียงไม่กี่เดือนวงการสีกากี “ดำดิ่ง” อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ลากตำรวจเข้ามุมอับ สารพัดปัญหาถูกนำมาเปิดโปงประจานกันเอง ไม่แยกแยะ “ตำรวจดี” เป็นเรื่องใหญ่ขบวนการยุติธรรมไทยทั้งระบบ

ทำให้ตำรวจอยู่ในตำแหน่งและอดีตตำรวจเก่า ห่วงใยความสุ่มเสี่ยงขององค์กรตำรวจ 2 อดีตรอง ผบ.ตร.และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาจากการเลือกตั้งของตำรวจทั่วประเทศ เรียกร้องตำรวจเร่งกอบกู้ชื่อเสียงตำรวจ

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ว่า “ความเสื่อมถอยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติน่าจะสุดทางแล้ว ขอให้พวกเราช่วยกันทำความดี เพื่อสร้างศรัทธาให้กับพี่น้องประชาชนกลับคืนมา สร้างเกียรติและศักดิ์ศรีให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การรักษากฎหมาย และการไม่แสวงหาผลประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญ”

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ บอกว่า “ตำรวจทั้งหมดรู้สึกเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนเกิดวิกฤติศรัทธา ทุกคนไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.คิดเรื่องกอบกู้วิกฤติศรัทธาตำรวจ ซึ่งไม่ใช่ทำคนเดียวได้ ตำรวจทุกคนพร้อมทำงาน ทำให้ประชาชนกลับมาไว้วางใจ ทำให้เห็น มีตำรวจดีอีกมากพร้อมรับใช้ประชาชน ถึงเวลาปัดกวาดบ้านตำรวจ เชื่อมั่นความตั้งใจของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ไม่ได้มองเรื่องตำแหน่ง แต่มีหน้าที่ สำคัญกว่าในการนำองค์กรตำรวจทำให้สังคมเชื่อมั่น สั่งให้จับบ่อนพนัน พนันออนไลน์ คาดโทษ ผบช. ผบก.และ ผกก.ที่ปล่อยให้มีบ่อนพนัน รับเงิน พนันออนไลน์เชื่อว่า “หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก” ตามนโยบายนายกฯ ทำให้ตำรวจเป็นผู้รับใช้ประชาชนให้ได้”

...

ไม่ว่าผลสอบสวนหรือผลคดี “บิ๊กตำรวจ” ออกมาแนวไหน ทุกวันนี้สภาพของความเชื่อมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหายยับเยิน ความคาดหวังสังคมเหล่าตำรวจอยู่ที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ปลุกจิตวิญญาณตำรวจคืนความเชื่อมั่นพี่น้องประชาชน แสดงบทผู้นำขัดตาทัพ พลิกวิกฤติที่มีเหลือน้อยให้เป็นโอกาสโดยเร็วที่สุดนำมาสู่ข้อสั่งการถึงรอง ผบ.ตร.-ผบก.ที่ว่า “การปฏิบัติหน้าที่และจับกุมสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เดินหน้าทำงานกันหนัก เพื่อรักษาองค์กรภาพลักษณ์ ชื่อเสียงขององค์กรตำรวจไว้ หลุดพ้นคำประณาม “ตำรวจถึงยุคตกต่ำ ที่สุด” และ “ตำรวจเป็นอาชีพที่ไม่ต่างอะไรจากโจร” ในฐานะที่เป็นตำรวจคนหนึ่ง มันเจ็บปวดแสนสาหัสกับประโยคเหล่านี้อย่างที่สุด เวลานี้ขอให้ท่านในฐานะผู้นำหน่วย หันกลับมามององค์กรและอาชีพที่เราเป็น ที่เรารัก และเกิดมาเพื่อเป็นตำรวจ ขอได้โปรดช่วยกันขับ เคลื่อนทุกวิถีทางที่จะสร้างความเชื่อมั่น และศรัทธาให้เกิดแก่ประ ชาชนและประเทศชาติ ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์แท้จริง”

...

“การประพฤติปฏิบัติ เอาใจใส่ดูแลประชาชนในทุกระดับ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่จะสร้างศรัทธา การปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามจับกุมสิ่งผิดกฎหมายใดๆเข้มข้น ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับผลประโยชน์โดยมิชอบ จะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจต่อตำรวจ หากความผิดใดที่เข้าข่ายความผิดมูลฐานที่ต้องบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินผู้กระทำผิด ต้องให้ฝ่ายสอบสวนนำมาตรการการตรวจ ยึดทรัพย์และกฎหมายฟอกเงินมาใช้ให้เด็ดขาดจริงจังกับผู้กระทำผิด ให้เกิดผลลัพธ์การบังคับใช้กฎหมายอย่างศักดิ์สิทธิ์

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ย้ำว่า “ฐานะ รรท.ผบ.ตร.ให้คำมั่นว่า “เวลาที่มอบหมายทำหน้าที่จะมุ่งมั่นทำงาน นำพาตำรวจไปในทิศทางที่ดีงาม ถูกต้อง สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่พี่น้องประชาชนให้ได้ โดยไม่มีความคิด ความทะเยอทะยานหรือความมุ่งหวัง ที่อยากจะเป็นผู้นำองค์กรเลยแม้แต่น้อย หากผมต้องสูญเสียหน้าที่การงานหรืออาชีพที่ผมรักด้วยการรักษาความถูกต้อง ความดีงาม ความชอบธรรมให้องค์กรหรืออาชีพของเรา ผมพร้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้น”

รรท.ผบ.ตร.เข้าใจความรู้สึกคนไทย ตำรวจดี สิ่งที่คิดทำนำตำรวจทำหน้าที่รับใช้ประชาชนแท้จริง ทำให้สังคมกลับมาเชื่อมั่นตำรวจ ไม่ยึดติดตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่งไม่มีประโยชน์ถ้าได้ตำแหน่งในสภาพศรัทธาแตกสลาย

เชื่อมั่นตำรวจอีกมากยืนเคียงข้าง รรท.ผบ.ตร. ยืนหยัดรักษาองค์กร.

ทีมข่าวอาชญากรรม

คลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยรอบสัปดาห์” เพิ่มเติม