ชุดคณะทำงานลูกน้องคนสนิทบิ๊กโจ๊ก เข้าให้ข้อมูลคณะพนักงานสอบสวน คดีที่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท หรือ เป้ รักผู้การ

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท หรือ เป้ รักผู้การ โดยมีการเชิญพยาน 4 คน ประกอบด้วย พล.ต.ต.นําเกียรติ ธีระโรจนพงษ์  // พ.ต.อ.เขมรินทร์  พิศมัย // พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย และ พ.ต.อ.ปรเมษฐ์ (สงวนนามสกุล) เข้าให้ข้อมูล

นายวัชรินทร์ กล่าวว่า คดีนี้ คณะทำงานได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาและผู้เสียหาย ซึ่งสาเหตุที่เชิญทั้ง 4 คน มาให้ข้อมูล เนื่องจากเป็นชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดแรกตั้งแต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน ส่วนอีก 2 คน ที่มีรายชื่ออยู่ในชุดสืบสวน แจ้งว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลภายในวันอังคารที่ 9 เมษายนนี้ 

ยืนยัน คดีมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ และในช่วงหลังสงกรานต์จะมีการนัดประชุมใหญ่อีกครั้ง โดยขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาเพียง 33 คน ส่วนจะมีเพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกระบวนการสืบสวนสอบสวน

ส่วนกรณีที่ นายบอย ผู้เสียหายอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ นายวัชรินทร์ กล่าวยืนยันว่า จากการสอบปากคำด้วยตัวเอง นายบอยไม่ได้ให้ข้อมูลว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามที่ปรากฏในข่าว และการเรียกชุดคณะทำงานเดิม ซึ่งถูกมองว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาให้ข้อมูลในวันนี้ ก็เป็นการเข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกออกหมายจับ และเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูนเมื่อวานนี้ 

...

ด้าน พล.ต.ต.นําเกียรติ กล่าวถึงกรณีที่เคยให้ข้อมูลว่า ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเข้ามาทำคดีนี้และทำให้ถูกโยงไปถึงคดีเว็บพนันออนไลน์ว่า ไม่อยากให้พูดถึงประเด็นนี้เพราะเป็นกรณีที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และยืนยันว่าคำกล่าวอ้างของนายบอย ที่ระบุว่าตัวเองไปชี้นำกดดันการสืบสวนสอบสวนนั้นไม่เป็นความจริง 

ส่วนเรื่องที่ระยะนี้ ชุดคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตกเป็นประเด็นในหลายคดี ก็ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะตัวเองไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย และ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ที่กล่าวว่าไม่รู้สึกหนักใจเช่นกัน

ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนที่อยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศ คณะทำงานกล่าวว่า อยู่ระหว่างประสานกับองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ Interpol เพื่อขอออกหมายน้ำเงินสำหรับดำเนินการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป