"ผู้การนำเกียรติ" ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ โผล่เปิดใจ พร้อมแฉแหลก เส้นทางการเงินเว็บพนัน BNK Master โยงบัญชี นายพล “ต.” - ครอบครัว เชื่อสาเหตุงานเข้าตกเป็นผู้ต้องหา เพราะไปแตะคดีเป้รักผู้การ 140 ล้าน และรวมถึงคดีกำนันนก ส่วยทางหลวง

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 19 มีนาคม 2567 พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ อดีต ผบก.ศฝร.บช.น. เปิดใจต่อสื่อมวลชนในระหว่างที่ ทีมทนายของบิ๊กโจ๊ก แฉเส้นทางการเงินเว็บพนันออนไลน์ BNK Master โยงถึงตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)


พล.ต.ต.นำเกียรติ เผยว่า ในฐานะผู้ต้องหาของคดีใน สน.ทุ่งมหาเมฆ ขอชี้แจงถึงความเชื่อมโยงในเส้นทางการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล แอดมินเว็บ BNK MASTER ซึ่งจากการข่าวพบว่า ในแถวหนึ่งพบความเชื่อมโยงไปยังบัญชีของผู้บังคับบัญชาระดับสูง นายพล “ต.” ภรรยา “ก.” พี่สาว “จ.” พี่ชาย “ช.” ซึ่งเหตุที่ตนตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี สืบเนื่องมาจากการที่ตนได้ทำสำนวนคดีเป้รักผู้การเท่าไร ใน จ.ชลบุรี เรียกเงินเว็บพนันกว่า 140 ล้านบาท โดยการสืบสวนในครั้งนั้น พบว่ามี พ.ต.อ. “ด.” มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิดกฎหมาย และยังมีธุรกรรมทางการเงินส่วนหนึ่งไปยังบุคคลอื่นอีกหลายราย โดยจำนวนหนึ่งพบเป็นตำรวจหญิง 2 นาย นางสาว ว. กับ นางสาว ก.ที่มีความสัมพันธ์กับตำรวจระดับสูง รวมถึงการทำคดีกำนันนก ขยายผลรวมไปถึงส่วยทางหลวง ซึ่งสาเหตุที่ตนออกมาพูดครั้งนี้ ถือเป็นจังหวะและโอกาส ตอนนี้ไม่กังวลแม้จะเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมน้อมรับ

ส่วนประเด็น พ.ต.ท.คริษฐ์ ใช้บัญชีม้าทำธุรกรรมการเงินนั้น หากเป็นบัญชีม้าจริง เข้ามาก็ต้องถอนเงินสดออกหมดไม่ให้เห็นเส้นทาง แต่กรณีนี้มีเส้นทางการเงินให้เห็นทั้งหมด และย้ำว่า ตนไม่ได้รู้จักกับ น.ส.มินนี่ จึงจะไปเรียกรับเงินได้อย่างไร

...

สำหรับการแจ้งความดำเนินคดีกับ ผบ.ตร.ก็ถือเป็นการใช้สิทธิ์ เพราะข้อเท็จจริงตนได้รับโอนเงินจากบัญชี พ.ต.ท.คริษฐ์ เพียง 9 ครั้งก็ต้องเป็นผู้ต้องหา แต่ในคดียังมีตำรวจบางนายที่รับโอนเงินมากกว่า แต่กลับไม่ตกเป็นผู้ต้องหา ไม่ถูกออกหมายจับ

บางช่วงบางตอนระหว่างเปิดใจกับสื่อมวลชน พล.ต.ต.นำเกียรติ ระบุว่า "อะไรจะเกิดขึ้นผมก็พร้อมน้อมรับ เพราะสิ่งที่ผมได้รับ กระทบกับตัวผม ผมก็แทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว"