"อัจฉริยะ" ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร ขอให้ตรวจสอบการเสียภาษี กรณีที่ "เฮียอั้ง เมืองชล" มอบค่านายหน้าการซื้อขายพระเครื่องให้ "บิ๊กโจ๊ก" ปูด "หลวงตาเต่า" มีข้อมูลซื้อขายเก้าอี้ในสมัยที่ใครบางคนรุ่งเรืองเฟื่องฟู ถึงขนาดมีการนำเงินสดใส่กล่องแอปเปิลขึ้นไปให้ที่ห้องทำงาน ซึ่งจะทำให้ใครบางคนถึงกับเป็นลม/จ่อยื่นมหาดไทย ตรวจสอบปริศนาปืน 200 กระบอก ทำไมนายทะเบียนอนุญาต

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่กรมสรรพากรสำนักงานใหญ่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นเรื่องร้องขอให้อธิบดีกรมสรรพากร ตรวจสอบการที่นายสมภพ ไทยธีระเสถียร หรือเฮียอั้ง เมืองชลมอบค่านายหน้าให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นเงิน มากกว่า 10 ล้านบาท ในการซื้อขายพระโดยได้เสียภาษีให้กรมสรรพากรหรือไม่ หากไม่ได้ชำระภาษีขอให้กรมสรรพากรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป โดยมีตัวแทนของอธิบดีกรมสรรพากร มารับหนังสือแทน

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ไปพบข้อมูลการซื้อขายพระเครื่อง ระหว่าง เฮียอั้ง เมืองชล (นายสมภพ ไทยธีระเสถียร) ผู้ซื้อ กับอดีตข้าราชการคนหนึ่ง ผู้ขาย จำนวน 8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2561 รวมมูลค่า 30.6 ล้านบาท เฮียอั้ง ได้จ่ายค่าแนะนำแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นนายหน้า จำนวน 10.6 ล้านบาท ทำให้พบความผิดปกติไม่ชอบมาพากล คือ โดยปกติค่านายหน้าจะต้องได้รับเงินจากผู้ขาย แต่ในกรณีนี้ เฮียอั้ง ผู้ซื้อ เป็นคนจ่ายเงินให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รวมทั้งเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้านั้น โดยปกติทั่วไปนายหน้า จะได้รับเงินส่วนแบ่ง 3-5% แต่การซื้อขายทั้งหมด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ค่านายหน้าถึงเกือบ 35% ซึ่งในวงการแล้วไม่มีทางที่จะได้รับเงินค่านายหน้ามากถึงขนาดนี้

แต่ที่มาร้องเรียนที่กรมสรรพากรในวันนี้ ก็เพื่อให้ตรวจสอบว่าการซื้อขายพระทั้งหมดนั้น มีการชำระภาษีหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้ามีการซื้อขายเกิน 1,800,000 บาท ใน 1 ปี จะต้องมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% นอกจากนี้ อยากให้ตรวจสอบด้วยว่า ได้มีการยื่นภาษีเงินรายได้บุคคลธรรมดา กับการซื้อขายพระเครื่องดังกล่าว แก่กรมสรรพากรด้วยหรือไม่ ถ้าพบว่าไม่มีการชำระภาษีในส่วนดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี

...

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะได้ฝากไปถึงทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่าจะมีการนำหลักฐานมาเปิดโปงเกี่ยวกับข้อมูลการกระทำความผิดที่อาจทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่นสะเทือนนั้น ขอท้าทายให้รีบนำข้อมูลกลับมาเปิดเผยโดยเร็ว เพราะหากเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ ไม่ใช่มีเพียงแค่วาทกรรม เพราะถ้าจะเปิดข้อมูลอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ทนายความก็จะมีความผิดไปด้วย ที่ให้การสนับสนุนกระทำความผิด ซึ่ง นายอัจฉริยะ ยังบอกว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ยังมีข้อมูลการทุจริตภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกจำนวนมาก ทั้งการทุจริตโครงการก่อสร้าง, การจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ และการซื้อขายตำแหน่งตำรวจในสมัยที่ใครบางคนรุ่งเรืองเฟื่องฟู ถึงขนาดมีการนำเงินสดใส่กล่องแอปเปิลขึ้นไปให้ที่ห้องทำงาน ซึ่งจะทำให้ใครบางคนถึงกับเป็นลม

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ จะไปยื่นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ตรวจสอบการซื้อปืนกว่า 200 กระบอก ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่านายทะเบียนทำไมจึงอนุญาตให้บุคคลคนเดียวสามารถทำเรื่องขอซื้ออาวุธปืนได้มากขนาดนี้