เศรษฐินีเจ้าของโรงหล่อพระและโต๊ะมุก วัย 64 ถูกยิงดับขึ้นอืดปริศนาพร้อมเลขาฯสาวคาตึกแถว 3 ชั้น ในเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ หลังลูกชายติดต่อแม่ไม่ได้หลายวัน สงสัยเกิดเหตุร้าย ขับรถจากบ้านที่กรุงเทพฯมาดูให้แน่ใจ พบประตูล็อกแต่แอร์เปิดทำงาน ปีนเข้าทางหลังบ้านไปดู ผงะเจอศพแม่นอนเคียงข้างเลขาฯส่วนตัว สภาพแม่ถูกยิงใต้ราวนม ส่วนเลขาฯมีรอยกระสุนที่ศีรษะ เจอปืนมรณะตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ตร.ตั้งปมฆาตกรรม-ปืนลั่น

เหตุสะเทือนขวัญเศรษฐินีโรงหล่อพระชื่อดังหัวหินถูกยิงตายคาร้านพร้อมเลขาฯสาว เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ร.ต.ท.พิทักษ์ คำนนท์คอม รอง สว.(สอบสวน) สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุมีหญิงเสียชีวิตภายในอาคารพาณิชย์ ริมถนนคันคลองชลประทานใกล้กับโรงพยาบาลหัวหิน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แพทย์เวรโรงพยาบาลหัวหิน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น เปิดเป็นร้านจำหน่ายพระพุทธรูป รับหล่อพระ เครื่องสังฆภัณฑ์ โต๊ะมุก ผ้าม่าน และของตกแต่งบ้าน ด้านหน้า ต่อเติมเป็นห้องกระจก บริเวณหน้าบ้านพบรถเก๋งเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำ จอดอยู่ เจ้าหน้าที่เปิดล็อกประตูห้องกระจกเข้าไปตรวจสอบด้านใน พบร่างหญิง 2 ศพนอนขึ้นอืดอยู่ใกล้กัน รายแรกทราบชื่อนางสุภัทรา สุวรรณตานนท์ อายุ 64 ปี เศรษฐินีเจ้าของร้านและโรงหล่อพระและโต๊ะมุก สภาพมีผ้าห่มคลุมร่างไว้ มีแผลถูกยิงใต้ราวนมซ้าย 1 นัด ส่วนอีกศพชื่อนางสุภาวดี ฮิลส์ท อายุ 46 ปี เป็นเลขานุการส่วนตัวนางสุภัทรานอนตะแคงสวมเพียงชุดชั้นใน มีแผลถูกยิงศีรษะ 1 นัด เบื้องต้นคาดว่าทั้งคู่เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5-7 วัน ในที่เกิดเหตุพบปืนกล็อก 19 ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนี้ยังพบกระดาษเขียนด้วยลายมือของนางสุภาวดีเขียนถึงลูกและสามีชาวต่างชาติ มีใจความขอโทษทำปืนลั่น และสั่งเสียเรื่องพินัยกรรมทรัพย์สินต่างๆ

...

สอบสวนลูกชายนางสุภัทรา เจ้าของร้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหลายวันก่อนไม่สามารถติดต่อแม่ได้ รู้สึกผิดสังเกตกลัวว่าจะเกิดเหตุร้าย ตัดสินใจเดินทางจากบ้านที่กรุงเทพฯพร้อมภรรยามาตามหาแม่ที่บ้าน อ.หัวหิน เพื่อมาดูให้แน่ใจ กระทั่งมาถึงช่วงเช้าพบสิ่งผิดปกติ ประตูบ้านปิดล็อก แต่เสียงแอร์เปิดทำงาน รถเก๋งของแม่จอดอยู่หน้าบ้าน พยายามตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบ ปีนเข้าทางหน้าต่างบานเกล็ดหลังบ้านแล้วเดินตามหาชั้นล่าง 2-3 ห้อง มาถึงห้องกระจกด้านในสุดพบประตูห้องล็อก แต่มองเห็นร่างคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ และมีกลิ่นศพโชยออกมาคิดว่าต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่ รีบแจ้งตำรวจตรวจสอบ

ส่วนลูกสะใภ้ผู้ตายให้การว่า ปกติแม่สามีจะอาศัยอยู่คนเดียว เพราะนิสัยเป็นคนไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย แต่มีเลขาฯส่วนตัวคอยดูแล ช่วยขับรถพาไปทำบุญบ้าง ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้หรือหาญาติต่างจังหวัด ที่ผ่านมาสามีโทรศัพท์และวิดีโอคอลหาแม่ตลอด แต่แม่มีนิสัยชอบปิดมือถือ ติดต่อยาก บางครั้งโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้นานหลายวัน เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา แม่บอกว่าจะไปหายายที่ จ.ชุมพร ทุกคนไม่ได้คิดอะไร แต่มารู้สึกผิดปกติตอนสามีโทร. ไปหาแม่แต่ไม่รับสาย ช่วงแรกคิดว่าแม่อยู่กับยายและไม่อยากรับสาย แต่ติดต่อญาติทราบว่าแม่ไม่ได้มาชุมพรทั้งที่นัดกันแล้วว่าจะมาหา อีกทั้งแม่ยังไม่ได้โอนเงินให้พยาบาลพิเศษที่ดูแลยาย เป็นเรื่องผิดปกติมาก ทุกคนเกิดความสงสัย สามีร้อนใจเดินทางมาดูด้วยตัวเอง พบแม่และเลขาฯเสียชีวิตอยู่ในบ้าน

พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า จากการตรวจสอบหลักฐานในบ้านและชันสูตรศพหญิงทั้งคู่ หญิงอายุ 63 ปีคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน ส่วนอีกรายเป็นเลขาฯเสียชีวิตมาประมาณ 5 วัน ประกอบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปืนตกอยู่ จากการประมวลเหตุการณ์ในเบื้องต้น ตั้งประเด็นไว้ 2 เรื่อง ประเด็นแรกอาจเป็นการฆ่าตัวตาย อีกประเด็นน่าจะเป็นอุบัติเหตุปืนลั่นและมีการฆ่าตัวตาย แพทย์ชันสูตรศพคาดว่าถูกยิงคนละ 1 นัด ยังมีกระสุนอยู่ในรังเพลิง เจ้าหน้าที่จะส่งศพผู้เสียชีวิตไปผ่าพิสูจน์ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลหัวหิน เพื่อให้ทราบสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง รวมถึงส่งปืนไปตรวจดีเอ็นเอว่าเป็นของใครบ้าง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นางสุภาวดี เลขาฯนางสุภัทรา มีสามีเป็นชาวต่างชาติ หลังเกิดเหตุ สามีเดินทางไปดูศพด้วยความโศกเศร้า ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้าน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเหตุฆาตกรรม ส่วนใครจะยิงใคร ต้องรอผลชันสูตรศพและตรวจปืนยืนยันอีกครั้ง

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่