อดีตคู่รักสองสาวใหญ่ที่เชียงราย ทะเลาะกันมานาน จนเลิกราแยกย้ายกันไปแล้ว ล่าสุดฝ่ายหนึ่งมาช่วยงานศพในหมู่บ้าน เลยนัดเคลียร์อีกรอบกลับทะเลาะกันรุนแรง เจ้าของบ้านชักปืน 9 มม. กระหน่ำยิงทะลุท้ายทอยไปเสียชีวิตที่รพ. คนยิงยืนรอมอบตัว
เมื่อเวลา 12.38 น. วันที่ 24 ก.พ. 67 ร.ต.อ.อำนวย อาทนิตย์ หัวหน้าตู้ยามตำรวจประจำตำบลห้วยสัก ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืน อาการสาหัส พื้นที่บ้านใหม่นาวา ม.20 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จึงรีบรายงานเหตุเบื้องต้นไปยัง พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.เมืองเชียงราย ให้รับทราบ จากนั้นจึงประสานแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ หน่วยกู้ชีพ ทต.ห้วยสัก สมาคมกู้ชีพธรรมนันท์เชียงราย และอาสาตำรวจตำบลห้วยสัก ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามเหตุและควบคุมการสืบสวนสอบสวนด้วยตนเอง พร้อมกับหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.เชียงราย พ.ต.ต.ประเสริฐ พาดี สว.(สอบสวน) และชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในบ้านเลขที่ 50 ม.20 โดยพบผู้บาดเจ็บเพศหญิง ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ น.ส.ปาริตา อินทะวัง อายุ 45 ปี ชาวบ้าน ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน อ.เมืองเชียงราย สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ มีบาดแผลถูกยิงตามร่างกาย 2 นัด เข้าที่จมูกทะลุท้ายทอย และอีกนัดโดนบริเวณต้นแขนซ้าย บาดเจ็บอาการสาหัสเป็นตายเท่ากันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน แพทย์และกู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนางผัดแก้ว คิตะยามะ อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของบ้านเกิดเหตุ นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่
...
ตรวจสอบที่โต๊ะ พบปืนพกสั้น CZ 2075 RAMI ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก วางไว้อยู่ และตามพื้นที่หน้าบ้านพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐานได้เก็บปลอกกระสุน รอยนิ้วมือ คราบเขม่าดินปืนบนตัวผู้ก่อเหตุ ไปตรวจสอบประกอบสำนวนคดี
นางอุสา มะโนวงค์ ผญบ.บ้านใหม่นาวา เผยว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังช่วยเตรียมงานศพซึ่งอยู่ก่อนถึงบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร และมีคนแจ้งว่ามีการยิงกัน เลยพากันมาดู ในเบื้องต้นทราบแค่ว่าทั้งคนยิงและคนที่ถูกยิงเคยคบหาอยู่กินกันมาได้ประมาณ 10 กว่าปี และต่อมาได้เลิกรากันได้ประมาณครึ่งปี โดยคนยิงกลับมาอยู่บ้าน ส่วนคนถูกยิงเป็นคน ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน วันนี้มีงานศพผู้สูงอายุในหมู่บ้าน คนโดนยิงซึ่งทำโรงงานสับปะรดได้นำเอาสับปะรดมาให้ที่งานศพและคงจะแวะมาพูดคุยกันจนมีปากเสียงและก่อเหตุยิงกันขึ้น โดยได้ยินจากชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ก่อนหน้าว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องในครอบครัว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับนางผัดแก้ว คิตะยามะ ผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมานานแล้ว ที่ผ่านมาโทรคุยก็ทะเลาะกันตลอด มีหลายเรื่องสะสมมาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องฝ่ายที่ถูกยิงนอกใจ ปัญหาการลงทุนในธุรกิจโรงงานสับปะรด และอื่นๆ จนได้เลิกรากันเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา
ผู้ก่อเหตุ เล่าอีกว่า วันนี้ น.ส.ปาริตา นำสับปะรดมาช่วยในงานศพ โดยแวะรับตนไปด้วย แต่ตลอดขาไปงานศพและขากลับมาบ้านก็ทะเลาะกันตลอด จน น.ส.ปาริตาได้มาจอดรถเก๋งโตโยต้า ครอส สีเทา ทะเบียน ขจ 9734 เชียงราย ที่หน้าบ้านเพื่อลงมาคุยกับตนที่โต๊ะหินอ่อน และมีปากเสียงกันอีก ตนจึงนำเอาปืนที่เก็บไว้ในกระเป๋าสีน้ำตาลที่วางบนโต๊ะหินอ่อน ออกมายิงใส่ไปทั้งหมด 3 นัดจนล้มลง จากนั้นมีคนแจ้งผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ตนก็นั่งรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ได้หลบหนี
ข้อมูลการจากสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ในวันนี้ทั้งคู่ได้นัดกันมาเพื่อเคลียร์ปัญหา ซึ่งระหว่างพูดคุยก็ได้ดื่มไปด้วย โดยฝ่ายคนยิงได้พยายามทวงถามเรื่องเงินแบ่งผลกำไรจากที่ลงทุนร่วมธุรกิจการค้าขายสับปะรดที่บ้านนางแล ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ที่ลงทุนร่วมกันมาเกือบ 10 ปี เป็นเงินลงทุนเกือบ 3 แสนบาท แต่ก็ถูกปฏิเสธเรื่อยมา และก่อนหน้านี้ยังได้ออกเงินดาวน์ซื้อรถเก๋งฟอร์จูนเนอร์มา 1 คัน แต่ น.ส.ปาริตา กลับเอาไปใช้ เมื่อทวงคืนแม่ทางฝ่ายคนตายก็บอกว่าฝ่ายคนยิงไม่มีสิทธิ์ เพราะเป็นเงินของผู้ตาย ประกอบกับพักหลังพบว่า น.ส.ปาริตา มีการพูดคุยกับสาวหน้าใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้คนยิงไม่พอใจ จึงตัดสินใจใช้ปืนที่แอบซื้อไว้ราวหนึ่งเดือนในราคา 50,000 บาท ยิงใส่ น.ส.ปาริตา ไปจำนวน 3 นัด จน น.ส.ปาริตา ตกเก้าอี้ บาดเจ็บหนัก ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.