ผู้การปราจีนบุรี ยืนยันศพถูกเผาในป่ายูคาฯ ที่อ.ศรีมหาโพธิ เป็นน้องนุ่นแน่นอน ทั้งเลส แหวนทอง คำสารภาพของสามีที่บอกว่าเอาศพใส่กระเป๋าเดินทางมาเผาทิ้ง เผยหาเจอเพราะนักข่าว เช็กสัญญาณจีพีเอสในโทรศัพท์จนพบพิกัดสุดท้ายของผู้ตาย 

จากกรณี เวลา 20.34 น.วันที่ 20 ก.พ.67 ร.ต.ท.กิตติพงษ์ สีหบุตร พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ  จ.ปราจีนบุรี พร้อม พ.ต.อ.สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ รับแจ้งรุดไปตรวจสอบ มีผู้พบโครงกระดูกมนุษย์สภาพถูกเผา ที่บ้านมาบเหียง หมู่ 10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ห่างจากถนนสาย 359 สระแก้วตัดใหม่ประมาณ 700 เมตร

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าโครงกระดูกดังกล่าวน่าจะเป็นของ น.ส.ชลลดา มุธุวงศ์ หรือ นุ่น อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว พบว่าสัญญาณมือถืออยู่ตรงจุดเกิดเหตุพอดี แต่เพื่อความชัดเจนต้องนำกระดูกที่พบไปทำการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง เนื่องจากที่เกิดเหตุพบแต่โครงกระดูกที่ถูกเผาเหลือแต่กระดูกบางส่วน

ล่าสุด พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุท ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี  กล่าวว่า จากที่แพทย์บอก และที่ยืนยันได้ชัดเจน คือ มีเลสที่เป็นชิ้นเดียวกับในภาพน้องนุ่นและก็ตรงกับคำสารภาพของผู้ต้องหาคือสามีผู้ตาย  สภาพร่องรอยการเผาคือนำศพใส่กระเป๋าเดินทาง แล้วเผาตรงจุดนี้  เป็นการนำศพใส่กระเป๋าแล้วเผา ที่มาพบตรงจุดนี้ในเวลา 18.30 น. จากผู้สื่อข่าวซึ่งได้ตาม GPS ของโทรศัพท์และโทรแจ้ง 191 ก่อนแจ้ง สภ.ระเบาะไผ่  พนักงานสอบสวนจึงมาพิสูจน์ทราบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์ว่าเป็นศพน้องนุ่นหรือไม่ หลักฐานที่พบมีเลส แหวนทอง  โทรศัพท์ที่นักข่าวใช้ติดตามระบบ GPS  ส่วนการฆ่า ทราบว่ามีการใช้ก้อนหินทุบหัว และที่เขาสารภาพเพราะทางสภ.ระเบาะไผ่ แจ้งไปทางปากเกร็ดว่าเราเจอศพแล้ว 

...


ด้านนายสงคราม ธรรมมะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เขตนี้เป็นเขตหมู่ที่ 10 ต.หนองโพรง เส้นทางนี้ติดเขตถนนสาย 359 บริเวณหลัก กม.ที่ 4 ที่เกิดเหตุห่างจากถนนสาย 359  ประมาณ 200 เมตร เป็นพื้นที่ป่ายูคาลิปตัสของบริษัท AA ซึ่งไม่มีคนจะผ่านโดยเฉพาะช่วงกลางวัน และช่วงกลางคืนก็ไม่มีคนผ่าน เพราะเป็นพื้นที่มืดทึบและก็มีช้างป่าเข้ามาในพื้นที่ด้วย ดังนั้นใครที่จะนำศพมาทิ้ง ก็จะเป็นที่ปลอดผู้คนไม่มีคนพบเห็น ผมก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีศพนำมาทิ้ง  

 

"จนช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.30 น. มีชาวบ้านโทรมาสอบถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถามว่ามีคนนำศพมาทิ้งในพื้นที่เรา และนักข่าวก็โทรเข้ามา ผมก็เดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อที่จะรู้จุด มาแล้วก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู ชาวบ้านนับ 100 คน ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะป่าตรงนี้ก็มีคนงานทำงานประจำอยู่แล้ว"