อภิชัย เตชะอุบล กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ ยันลูกชายถูกแบล็กเมล์ กรณีหญิงสาวไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ ข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำอนาจาร ยืนยันมีหลักฐานทั้งก่อน และหลังเกิดเหตุ ไม่มีการทำร้าย ยึดโทรศัพท์ ด้านเพจสายไหมต้องรอดพาผู้เสียหายติดตามความคืบหน้า ย้ำเป็นการแจ้งความดำเนินคดี ไม่ใช่แบล็กเมล์ และแจ้งตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ต้องการดูท่าทีผู้ก่อเหตุ แต่ไม่มีทีท่าสำนึกผิด ล่าสุด ตร.ออกหมายเรียกไปแจ้งข้อหาแล้ว


วันที่ 12 ก.พ. 2567 กรณีมีการนำเสนอข่าว ไฮโซหนุ่มลูกชายนักการเมือง ถูกหญิงสาวแจ้งความที่ สน.ประเวศ ข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และกระทำอนาจาร โดยใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดในบ้านพักของฝ่ายชาย ย่านประเวศ กทม.

นายอภิชัย เตชะอุบล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ระบุว่าชื่อใคร แต่เรื่องที่ไปแจ้งความกล่าวหาไม่เป็นความจริง เรารู้เจตนาของเขา และมีหลักฐานทุกอย่าง มีวิดีโอก่อน และหลังเกิดเหตุ รู้ว่าเป็นกลุ่มไหน และมีเจตนาต้องการอะไร ซึ่งพวกนี้เป็นขบวนการที่ต้องการแบล็กเมล์ทำให้เสียชื่อเสียง ตอนนี้กำลังให้ทนายจัดการดำเนินคดีกลับ ยืนยันไม่มีการไปทำร้ายร่างกายตามที่อ้าง หรือยึดโทรศัพท์เอาไว้ 


นายอภิชัย กล่าวด้วยว่า ถ้าลูกตนทำไม่ดีจะไม่ว่า แต่ถ้าโดนกลั่นแกล้งแบบนี้ก็ว่าไปตามกฎหมาย ผิดก็คือผิดก็จบไป ให้ติดคุกไม่ช่วยเหลือ แต่สิ่งที่พวกนี้ทำ และออกมาพูด มีการวางแผนอย่างดี และไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้องการทำให้เราเสียชื่อเสียง จึงต้องดำเนินการกลับ ไม่มีการไกล่เกลี่ย คนพวกนี้ต้องเอาให้เข็ด ต้องสั่งสอนอย่าไปทำร้ายคนอื่น ไม่ใช่คิดว่าเขามีเงินก็ทำได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.พ. ที่ สน.ประเวศ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขาฯ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พา น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายวัย 25 ปี ติดตามความคืบหน้าคดีที่ถูก นายณพวีร์ เตชะอุดม หรือ เควิน อายุ 27 ปี ลูกชายของ นายอภิชัย เตชะอุดม กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พยายามใช้กำลัง และกระทำอนาจาร เหตุเกิดที่บ้านพักซอยพรีเมียร์ 1 แยก 4 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา 

...


น.ส.เอ กล่าวว่า ได้กลับไปทบทวนตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่อยากให้มาเกิดซ้ำกับใครอีก จึงต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการของกฎหมาย ส่วน น.ส.สุชาดา กล่าวว่า วันนี้ผู้เสียหายนำเอกสารการตรวจร่างกายจากแพทย์มามอบให้ตำรวจเพิ่มเติม ซึ่งบาดแผลต่างๆ ตามตัวนั้นเกิดจากการพยายามวิ่งหนี เพราะผู้เสียหายถูกฉุดกระชาก ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุนั้น เป็นเพื่อนในวงสังคมเดียวกัน ยืนยันว่าการแจ้งความนี้ไม่ใช่การแบล็กเมล์ เพราะได้แจ้งตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว และต้องการดูท่าทีของผู้ก่อเหตุ ซึ่งไม่มีท่าทีจะสำนึกผิด หรือขอโทษกับการกระทำ


ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีความรู้พอสมควร จึงได้ประสาน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากครอบครัวผู้ก่อเหตุเป็นคนใหญ่โต แต่จะเป็นใครนั้นไม่สำคัญ อย่าคิดว่าร่ำรวยใหญ่โตแล้วจะไม่ถูกดำเนินคดี ทางที่ดีควรออกมาขอโทษด้วย เพราะครอบครัวผู้เสียหายก็มีฐานะ และไม่ได้เรียกร้องเงิน

 

ขณะที่ พ.ต.ท.พีรวัฒน์ สุขรมย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ประเวศ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความได้ส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายพร้อมสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเหลือพยานอีก 1 ปากที่เป็นผู้พาผู้เสียหายออกจากที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้มีพยานหลักฐานครบ วันนี้จึงเตรียมออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา เหตุที่ไม่สามารถออกหมายจับได้ เนื่องจากโทษทางคดีสั่งจำคุกได้ไม่เกิน 3 ปี และผู้ก่อเหตุมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อย่างไรก็ตามผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมาหาตำรวจแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดใดทางคดี ยืนยันว่าไม่มีความกังวล หรือมีบุคคลใดมากดดัน.