อธิบดีกรมการข้าว คู่กรณี “ศรีสุวรรณ” และพวก ย่องให้ข้อมูล ปปป. ขณะที่ภรรยาหอบบัญชี 20 เล่มให้ตำรวจตรวจ ยืนยันความบริสุทธิ์ของสามี ปัดตอบคลิปเสียงนาย “จ.” รีดเงิน อ้างยังไม่เห็น
วันที่ 28 ม.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า หลังสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กรณีการจับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา และพวก ซึ่งให้การปฏิเสธ ไม่ยอมให้การที่เป็นประโยชน์กับคดี แต่ไม่ได้หนักใจอะไรเพราะหลักฐานที่มีอยู่ในมือพนักงานสอบสวนนั้นมีมากอยู่แล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปจะส่งเอกสารหลักฐานทุกอย่างที่ได้มาไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมาใช้ประกอบสำนวน
โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) เจ้าหน้าที่จะประชุมคณะทำงานสอบสวน รวมทั้งทีมกฎหมายเพื่อดูว่า คดีนี้ยังขาดอะไรอีกบ้าง ต้องแสวงหาอะไรเพิ่มเติมเพื่อมาประกอบสำนวนอีกหรือไม่
ช่วงบ่ายวันเเดียวกัน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อม นางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยา เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพ.ต.อ.เพิ่มวุฒ ประทุมราช ผกก. 1 บก.ปปป. และพนักงานสอบสวน กก.1.บก.ปปป. จากกรณี “ศรีสุวรรณ จรรยา” และพวกถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว
นางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยานายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่พูดเซฟไปด้วยซ้ำ เพราะความเป็นจริงหลักฐานมีมากกว่านั้นเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันเกิดเหตุที่ชัดเจนทุกอย่างทุกถ้อยคำ
ส่วนที่ผู้ต้องหาออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยเรียกรับเงินหรือรับผลประโยชน์ นางธัญญรัตน์ ระบุว่าเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่ออกมาทำนองว่ามีการต่อรองเรื่องเงินนั้น ตนยังไม่เห็น เพราะทำงานส่วนตัวอยู่และรู้สึกเหนื่อย จึงยังไม่ได้สนใจในเรื่องตรงนี้ อีกทั้งยุ่งเรื่องการเก็บหลักฐานต่างๆ จนขณะนี้ยังไม่ได้พัก
...
เมื่อถามว่ายืนยันในความบริสุทธิ์ของอธิบดีหรือไม่ นางธัญญรัตน์ ย้ำว่าขอให้ไปดูตามสื่อว่าโครงการต่างๆ เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ส่วนผู้ต้องหาที่มาเรียกรับเงิน มาจากสาเหตุอะไรนั้น ต้องไปถามเขา ซึ่งพร้อมให้ตรวจสอบ สำหรับวันนี้ได้นำบัญชี 20 เล่ม มาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ว่ามีความผิดอะไรหรือไม่ พร้อมกับนำหลักฐานที่มีทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ เพื่อดูว่าสามารถช่วยเหลือหรือทำอะไรได้บ้าง
นางธัญญรัตน์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุนาย “จ.” ได้ติดต่อมาในระหว่างที่มีเรื่องกัน ส่วนเป็นเรื่องอะไรนั้นได้เก็บหลักฐานให้กับตำรวจไปแล้ว ส่วนฝั่ง นาย “ศ.” ขณะนี้ ยังไม่ได้ติดต่อกลับมา และไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเพิ่มเติม
เมื่อถามว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นางธัญญรัตน์ ระบุว่าต้องแล้วแต่เจ้าหน้าที่เพราะส่วนตัวเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบฝั่งตนเองมากกว่าที่จะไปตรวจสอบอีกฝั่งหนึ่ง เพราะก่อนที่จะไปดำเนินการกับผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ได้มีการวางแผนกันมานานแล้ว สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่มาก เพราะกรณีนี้เป็นปัญหาบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักอดนอน ซึ่งหลักฐานต่างๆ ที่ตนนำไปให้เจ้าหน้าที่ก็ได้รับความเห็นใจ แต่ไม่ได้ฟังและเชื่อเลย ต้องตรวจสอบก่อนอย่างละเอียด เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้นเจ้าหน้าที่ก็จะโดนด้วย