หนุ่มทาสยาเสพติด ยอมรับสารภาพเสพยาบ้ามา 2 เม็ด ก่อนคลุ้มคลั่งขาดสติ ฆ่า "หมวดอี๊ด รอง สวป.สภ.ธาตุพนม" ขณะเข้าระงับเหตุ ฝากขอโทษที่ทำผิด ก่อนตำรวจคุมตัวส่งฝากขังศาล เจอ 6 ข้อหาหนัก ญาติไม่ขอยื่นประกันตัว พบประวัติเคยทำร้ายพี่สาวกับพ่อ ถูกดำเนินคดีฐานพยายามฆ่า ศาลสั่งจำคุก 1 ปี 7 เดือน เพิ่งพ้นโทษมาไม่ถึงปี ก่อเหตุซ้ำอีก
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ที่ สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม มอบหมายให้ ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม รองสารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี นำชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายอานุเดช ไชยปัญญา หรือเดช อายุ 49 ปี ผู้ต้องหา ทาสยาบ้าคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธมีดจ้วงแทง ตำรวจเสียชีวิต คือ ร.ต.ท.อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ หรือหมวดอี๊ด อายุ 56 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.ธาตุพนม นพต.รุ่น 22 ขอนแก่น ขณะเข้าไปเกลี้ยกล่อมควบคุมเหตุ แต่พลาดท่าถูกฉวยโอกาสทำร้าย เพราะความเชื่อใจที่สนิทกัน เคยไปเกลี้ยกล่อมให้กินยาระงับประสาทหลายครั้ง สุดท้ายเกิดเหตุสลดด้วยความที่เชื่อใจผู้ต้องหา เหตุเกิดที่บ้านโชคอำนวย ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
...
โดยวันนี้ทางตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปเสนอศาลจังหวัดนครพนม ขอฝากขัง รอการดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาฐานความผิด 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.เสพยาบ้า 2.ฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ 3.ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์ไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม 4.วิ่งราวทรัพย์ รถจักรยานยนต์ 5.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 6.พาอาวุธและอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร
ทั้งนี้จากการสอบถามญาติผู้ต้องหา ยืนยันว่าไม่ขอยื่นประกันตัว เนื่องจากเป็นภัยสังคม รวมถึงยังพบประวัติการก่อเหตุมาบ่อยครั้ง เคยคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายพี่สาวกับพ่อ และถูกแจ้งตำรวจมาจับกุมดำเนินคดีมาก่อน ในข้อหาพยายามฆ่า ถูกศาลจังหวัดนครพนม ตัดสินลงโทษจำคุก 1 ปี 7 เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อต้นปี 2566 แต่สุดท้ายมาก่อเหตุซ้ำอีก และเคยนำไปบำบัดรักษาหลายครั้ง แต่กลับมาเสพยาบ้าอีก
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายอานุเดช ไชยปัญญา หรือเดช ผู้ต้องหา ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว ไปเสนอศาลจังหวัดนครพนม ฝากขัง นายอานุเดช ได้ตอบผู้สื่อข่าวว่า ก่อเหตุไปเพราะขาดสติ เนื่องจากเสพยาบ้ามา 2 เม็ด จนคลุ้มคลั่ง และลงมือทำร้ายตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุเกลี้ยกล่อม
จากการสังเกต พบว่าสีหน้าของผู้ต้องหายังเคร่งเครียด อีกทั้งตำรวจยังให้ข้อมูลว่า ในช่วงควบคุมตัวในห้องขัง สภ.ธาตุพนม เจ้าตัวยังมีอาการคลุ้มคลั่ง ต้องให้แพทย์มาฉีดยาระงับอาการ ทำให้มีอาการเคร่งเครียด พูดแค่ว่า “ฝากขอโทษครับ ทำผิดครับ”