ตำรวจบุกรวบโจรสาว บุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทอง ห้างดัง อ.ท่ายาง พบกรรมติดจรวด ถูกไฟคลอกขาสาหัส ต้องนั่งรถเข็นทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในสภาพน่าอนาถ อ้างลงมือก่อเหตุเพื่อประชดผัว


จากกรณีเมื่อคนร้ายเป็นหญิงสาวลักษณะรูปร่างผอมสูงแต่งกายใส่กางเกงวอร์มสีดำแถบขาว เสื้อคลุมแบบมีฮู้ดสีดำ สวมหมวกแก๊ป แมสก์สีดำ สวมรองเท้าฟองน้ำแบบรัดส้นเท้า ใช้ผ้าคลุมสิ่งคล้ายอาวุธปืนในมือ บุกเดี่ยวเข้าไปก่อเหตุจี้พนักงาน ร้านทองเยาวราช ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาท่ายาง เลขที่ 777 หมู่ 1 ต.ท่ายาง  อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ รื้อค้นหวังชิงทอง แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะก่อนหน้านั้นพนักงานทั้ง 5 คนได้ช่วยกันเก็บทองใส่ตู้เซฟเพื่อเตรียมจะปิดร้าน โดยพอคนร้ายรู้ว่าไม่ได้ทองแน่ จึงหลบหนีไปทางถนนเพชรเกษม 


หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.โชคชัย เนียลเซ็น ผกก.สภ.ท่ายาง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อรรถพงษ์ นกขุนทอง รอง ผกก.สส.สภ.ท่ายาง และชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง ร่วมกับ ร.ต.อ.สมประสงค์ เพนเทศน์ รองสว. กก.1บก.ทท.3 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ติดตามสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย

...


ตรวจสอบกล้องวงจรปิดรัศมีโดยรอบของห้างสรรพสินค้าโลตัส ตลอดจนเส้นทางที่คาดว่าจะใช้ในการหลบหนี กระทั่งทราบว่าคนร้ายรายนี้เป็นผู้หญิงหลังจากก่อเหตุแล้วไม่ได้ทอง คนร้ายได้เดินออกมาจากห้างโลตัส มาที่ริมถนนเพชรเกษม จากนั้นได้ถอดเสื้อคลุมสีดำใส่กระเป๋าสีฟ้า จากนั้นได้เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ไปที่รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น D-Max ออลนิว 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ขจ 6679 กทม. ของตนเองที่จอดไว้บริเวณทางเข้าหมู่บ้านหนองสัก ริม ถ.เพชรเกษม แล้วขับหลบหนี มุ่งหน้าเข้า กรุงเทพฯ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง ชุดสืบสวนท่องเที่ยวร่วมติดตาม 5 วัน 5 คืน จนสามารถทราบเบาะเเสและทราบชื่อผู้ก่อเหตุต่อมาคือ น.ส.เดือนเด่น บุพศิริ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 35/13 ม.8 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ปัจจุบันอาศัยเช่าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเขตบางกอกน้อย กทม. อยู่กับนายบี นามสมมติ ผู้เป็นสามี ซึ่งมีอาชีพค้าขาย


ต่อมาเวลา 11.25 น. วันที่ 21 ธ.ค. 66 พ.ต.ท.อรรถพงษ์ นกขุนทอง รอง ผกก.สส.สภ.ท่ายาง พร้อมกำลังได้นำหมายค้นและหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 475/256 ลงวันที่ 21 ธันวาคม เดินทางไปจับกุม น.ส.เดือนเด่น บุพศิริ อายุ 30 ปี ได้ที่ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยบางขุนนนท์ 24 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. เบื้องต้น น.ส.เดือนเด่น อยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุไฟไหม้ ขาทั้ง 2 ข้างไม่สามารถหลบหนีได้


สอบสวน น.ส.เด่นดวง รับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง โดยช่วงเช้าตรู่ในที่ 14 ธันวาคม 2566 ตนเกิดมีปากเสียงด้วยเรื่องภาระค่าใช้จ่ายกับนายบี สามี อย่างหนัก จนตนตัดสินใจขับขี่รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น D-Max ออลนิว 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ขจ 6679 กทม. ออกจากอพาร์ตเมนต์ โดยนุ่งเพียงกางเกงลำลองขาสั้น และเสื้อยืดกีฬาสีชมพู ติดยี่ห้ออาดิดาสอยู่ด้านหน้า แล้วขับรถไปด้วยครุ่นคิดไปด้วยกระทั่งมีความคิดว่า อยากจะก่อเหตุประชดสามี ตนจึงเข้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่เขตสายใต้ กทม. เพื่อซื้อกางเกงวอร์มแบบมีแถบ, เสื้อคลุมแบบมีฮู้ดสีดำ หมวกแก๊ปสีดำ รองเท้าสีดำแบบรัดส้น, แมสก์สีดำ และปืนปลอมสำหรับเด็กเล่น จากนั้นได้ขับขี่รถมุ่งหน้าไปทางจังหวัดราชบุรี เพื่อตัดสินใจชิงทรัพย์ร้านทอง แต่ด้วยร้านทองมีผู้คนพลุกพล่าน จึงขับขี่รถไปที่เขตอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และขับตระเวนจนรอบห้างโลตัสกระทั่งจอดรถอยู่ริมถนนด้านหลังโลตัสเพื่ออาศัยหลับ กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 15 ธ.ค. ได้ตระเวนดูเส้นทางโดยรอบของห้าง และเห็นว่าไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน จนเวลา 19.30 น. ได้สวมชุดสีดำที่ซื้อเตรียมมาสวมใส่ทับกับชุดลำลองที่ตนเองสวมใส่อยู่ จากนั้นได้ขับรถมาจอดบริเวณศาลาริมทางหน้าทางเข้าหมู่บ้านหนองสัก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าโลตัส แล้วสะพายกระเป๋าสีฟ้าเดินข้ามถนนเข้าไปในห้าง แล้วฉวยโอกาส เดินถือปืนโดยมีผ้าสีฟ้าคลุมเอาไว้ ไปที่เคาน์เตอร์ห้างทองเยาวราชสาขาโลตัสท่ายาง ซึ่งขณะนั้นมีพนักงาน 4-5 คนกำลังชุลมุนกับการเก็บทองใส่ตู้เซฟ ตนจึงใช้ปืนปลอมขู่ทำให้พนักงานตกใจรีบมุดลงไปใต้เคาน์เตอร์ ตนจึงปีนข้ามเข้าไปเพื่อค้นหาทองแต่ไม่พบแม้แต่สักเส้นเดียว จึงตัดสินใจเดินออกมาริมถนนเพชรเกษมทั้งๆ ที่ไม่ได้ทองติดมือมาสักเส้นเดียว ฝ่าความมืดแล้วถอดเสื้อคลุมและกางเกงใส่กระเป๋าสะพายแล้วเดินข้ามถนนมาขับขี่รถกระบะหลบหนีเข้า กทม.ระหว่างทางได้นำกางเกง ปืนปลอม หมวก รองเท้า โยนทิ้งลงเเม่น้ำที่นนทบุรี และขอค้างคืนกับพี่สาวที่อพาร์ตเมนต์ 1 คืน 

...


แต่ขณะที่พี่สาวออกไปทำงาน จึงทิ้งให้ตนอาศัยอยู่ในห้องเพียงคนเดียวแต่ขณะที่ตนกำลังพักผ่อนได้สังเกตเห็นเปลวเพลิงกำลังรุกไหม้ ตนจึงฝ่าเปลวเพลิงเพื่อเอาตัวรอด แต่เปลวเพลิงได้ลุกไหม้ขาทั้งสองข้างจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว


ต่อมาเช้าวันที่ 22 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.ดวงเด่น บุพศิริ นั่งรถเข็นหลังจากได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกไฟไหม้ขาทั้งสองข้างมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขั้นตอนการก่อเหตุทั้งหมดจนถึงชี้เส้นทางที่ใช้ในการหลบหนี ส่วนผู้ก่อเหตุถูกแจ้งข้อหา พยายามชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพบข้อพิรุธในคำให้การหลายประเด็นซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ สอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดี ต่อไป.