ร้อยเอ็ด-หนุ่มทาสยาบ้า เสพจนหลอน หูแว่ว คว้ามีดอีโต้ฟันคอ และศีรษะ ยายวัย 63 ปี ที่คอยดูแลให้การช่วยเหลือมาตลอด เสียชีวิต ก่อนปั่นจักรยานหลบหนี สุดท้ายถูกตำรวจตามรวบตัวได้ทันควัน อ้างโกธรที่โดนสาปแช่งทำคนในบ้านตายมา 5 คนแล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2566 พ.ต.อ.กฤษฏิ์ภิวัชร ปรีดาพันธุ์ ผกก.สภ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่า มีเหตุคนติดยาบ้าใช้มีดฟันคนแก่เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 6 บ้านชีโหล่น ตำบลบ้านแจ้ง อำเภออาจสามารถ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุริยา ยอดวงษ์ รอง ผกก.(ป) แพทย์เวรโรงพยาบาลอาจสามารถ และนายอิฐเชษฐ์ นาคะเต นายอำเภออาจสามารถ ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพ นางหนูบล พานแก้ว อายุ 63 ปี ภรรยาเจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นดินกลางลานบ้าน สภาพศพถูกฟันที่ศีรษะ 1 แผล และลำคอเป็นแผลฉกรรจ์อีก 1 แผล เลือดไหลนองพื้น ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อว่า นายกิตติพจน์ ลุนนากัน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 6 ห่างจากบ้านของผู้ตายไปทางทิศใต้เพียง 1 หลัง เมื่อก่อเหตุแล้วได้ปั่นจักรยานหลบหนีไป
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า นายกิตติพจน์ ฆาตกรโหดรายนี้เป็นผู้ป่วยติดสารเสพติด เคยรับการบำบัดมาแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายกิตติพจน์ ก็ได้เข้าไปทำร้าย นายวีรวัฒน์ พานแก้ว อายุ 75 ปี สามีของผู้ตาย โดยการใช้ค้อนตีตะปูตีเข้าไปบริเวณหน้าผากด้านซ้ายจนได้รับบาดเจ็บ และยังมีรอยแผลอยู่ ซึ่งในตอนนั้นเมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วก็ดำเนินการอะไรไม่ได้ เพราะผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ป่วยทางจิต ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาทางครอบครัวผู้ตายก็ให้การดูแลช่วยเหลือคนก่อเหตุมาโดยตลอด เพราะพ่อแม่ตายหมด อาศัยอยู่เพียงลำพังคนเดียว
...
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามจับกุมตัวนายกิตติพจน์ได้ หลังจากขี่รถจักรยานไปตามทุ่งนาใกล้หมู่บ้าน ส่วนมีดอีโต้ที่ใช้ก่อเหตุ ยังไม่บอกว่าเอาไปทิ้งไว้ที่ใด และเมื่อสอบถามว่า ทำไมจึงลงมือก่อเหตุ ผู้ต้องหาบอกว่าคนบ้านนี้สาปแช่งให้คนในบ้านตนตายมาถึง 5 คนแล้ว
สำหรับ นายกิตติพจน์ ผู้ก่อเหตุรายนี้อาศัยอยู่เพียงลำพัง เพราะพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ต่อมาก็ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาบ้าจนทำให้เกิดอาการผิดปกติจนหูแว่วว่าคนในบ้านของผู้ตายสาปแช่งคนในบ้านของตนจนเสียชีวิต จึงเกิดความโกรธ
ซึ่งขณะที่ นายกิตติพจน์ เข้าไปก่อเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงได้จับภาพเอาไว้ได้
จากการสอบถาม นายวีรวัฒน์ สามีของผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังนั่งสับมะม่วง และทำน้ำจิ้มที่โต๊ะไม้ลานบ้าน เพื่อไว้ขายให้กับเด็กๆ นักเรียนหลังเลิกเรียน ส่วนตนอยู่ในห้องน้ำได้ยินแต่เสียงว่า ช่วยด้วยๆ จึงรีบออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับถือค้อนไม้ออกมาด้วย เมื่อฆาตกรเห็นก็เลยรีบวิ่ง ปั่นจักรยานหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ.