ตำรวจ ปคบ. รวบยกแก๊ง "เพจอ้วน ผอม ออนทัวร์" ตุ๋นเหยื่อซื้อทัวร์ทิพย์กว่า 400 คน ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท พบเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เร่งเช็กเส้นทางการเงินขยายผลผู้ร่วมขบวนการ 

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. สั่งการ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก.1 บก.ปคบ. จับกุม นายอัจฉริยะ อายุ 39 ปี น.ส.ศศิประภา อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4511-4512/2566 ลง 30 พ.ย.66 ข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน, หลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ" โดยจับกุม นายอัจฉริยะ ได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง สาขารัตนาธิเบศร์ 3 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี จับกุม น.ส.ศศิประภา ได้ที่บริเวณหน้าประตูเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี

เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวนหลายร้อยราย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อ packages ทัวร์ต่างประเทศผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ้วน ผอม จอมเที่ยว โดยมี บจ.อ้วน ผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ กับพวก เป็นแอดมิน แต่เมื่อถึงกำหนดแล้วกลับไม่ได้เดินทาง เนื่องจากทัวร์ล่ม หรือบางรายเดินทางไปแล้ว แต่กลับไม่มีโปรแกรมทัวร์ตามตารางที่แจ้งไว้ ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายบางส่วนก็ถูกบังคับให้ออกค่าใช้จ่ายเอง และยังไม่สามารถขอเงินคืนได้ ทั้งที่ทางบริษัทเคยยืนยันว่า สามารถขอเงินคืนได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งหลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และนำมาสู่การตามจับกุมตัวทั้งสองได้ดังกล่าว

สอบสวนทั้งสองให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงผู้เสียหาย แต่ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการขาดทุนในทริปทัวร์ก่อนหน้านั้น เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินคดีต่อไป

...

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วยนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีดังกกล่าว โดย พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า จากกรณีมีผู้เสียหายหลายร้อยราย ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อ packages ทัวร์ต่างประเทศผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ้วน ผอม จอมเที่ยว นั้น

“หลังรับเรื่องจึงได้มีการตั้งคณะทีมงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา ปัจจุบันมีการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 60 ราย จากทั้งหมด 400 ราย ยอดมูลค่าความเสียหายขณะนี้อยู่ที่กว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่า พฤติกรรมของคดีคล้ายกับแชร์ลูกโซ่รูปแบบหนึ่ง คือ มีการนำเงินของลูกค้าที่จองซื้อทัวร์ล่วงหน้า มาใช้จัดทัวร์ให้กับลูกค้าปัจจุบัน เหมือนกับการหมุนเงิน” 

ด้าน พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. กล่าวว่า หลังปรากฏหลักฐานการกระทำผิดค่อนข้างแน่ชัด เจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก่อนนำมาสู่การตามจับกุมตัวทั้งสองรายดังกล่าวในทันที จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งสองยังคงให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ก่อนนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญา ตอนนี้ทราบว่าในส่วนของ น.ส.ศศิประภา ขณะนี้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล ขณะที่ นายอัจฉริยะ ทราบว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล 

“แม้ผู้ต้องหาจะยังคงยืนกรานปฏิเสธ แต่ไม่ได้หนักใจ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้ ส่วนจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่ในขณะนี้”