นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน เมืองพัทยา โวยสื่อนอกตีข่าวเกินจริง ปมตีแผ่การขายบริการเด็กในไทย ทำตำรวจดีๆ หมดกำลังใจในการทำงาน ย้ำภาครัฐควรตรวจสอบจริงจัง ไม่ให้ต่างประเทศดูหมิ่นเมืองไทย ปู้ยี่ปู้ยำ ทำลายชื่อเสียง แบบนี้
จากกรณีที่ สื่อเยอรมัน ทำสกู๊ปข่าว ตีแผ่การขายบริการเด็กในไทย เปิดเผยมีผู้ต้องหาชาวเยอรมัน โดนจับ แต่ติดสินบน 1 ล้าน แล้วหนีกลับประเทศได้นั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2566 นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน เมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากทราบกระแสข่าวสกู๊ปของสื่อต่างประเทศนั้น ตนเองและกลุ่มผู้ประกอบการได้ประสานหาข้อมูลจนทราบว่า ชาวต่างชาติรายนี้ได้จ่ายเงินให้กับทนายความจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อไปดำเนินการในการประกันตัวออกนอกประเทศ โดยทางทนายได้ทำหนังสือคำร้องขอประกันตัว ซึ่งทางชั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัว และนำตัวผู้ต้องหาชาวเยอรมันรายนี้ ส่งศาลเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
แต่ทางศาลได้พิจารณาว่า ผู้ต้องหา มีที่พักเป็นหลักแหล่ง มีธุรกิจอยู่ที่เมืองไทย และมีภรรยาเป็นชาวไทย และจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยเรื่องธุรกิจ ศาลจึงพิจารณา ให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้ และวางเงินประกันตัว 5 แสนบาท และให้กลับมารายงานตัวในวันที่ 14 พ.ย. 65 แต่แล้วชาวต่างชาติรายนี้กลับหลบหนีไป ไม่มาตามนัดหมายศาล
ซึ่งหากผู้รับชมคลิปวิดีโอสกู๊ปข่าวนี้ จะเข้าใจผิดว่า ตำรวจเป็นผู้ปล่อยตัวผู้ต้องหา แต่โดยทางขั้นตอนแล้ว เป็นคำสั่งของศาล ซึ่งคลิปวิดีโอนี้ ส่งผลกระทบให้เสียหายในหลายด้าน โดยเฉพาะภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และตำรวจท้องที่เมืองพัทยา เสียหาย ส่งผลให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานอย่างดีหมดกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งภาพลักษณ์ของผู้ประกอบการกลางคืนเสียหายเป็นอย่างมาก
...
ซึ่งตนเองมองว่า คลิปสกู๊ปดังกล่าว นำเสนอเกินความเป็นจริง ไม่แฟร์สำหรับเมืองพัทยา จึงอยากให้ภาครัฐตรวจสอบคดีนี้อย่างจริงจัง เพื่อปกป้องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และเป็นตัวอย่างให้สื่อต่างประเทศ ไม่ควรนำเมืองไทยไป ปู้ยี่ปู้ยำ ทำลายชื่อเสียง แบบนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการกลางคืน ได้รณรงค์ป้องกันไม่ให้มีการค้ามนุษย์ และเด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ในสถานประกอบอยู่ตลอดเรื่อยมา ล่าสุดจะจัดทำคลิปวิดีโอสั้น เกี่ยวกับเรื่องการค้ามนุษย์ และบทลงโทษที่จะเกิดขึ้นหากกระทำผิด เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ตามสื่อและช่องทางต่างๆ เพื่อปลูกฝังให้ผู้ประกอบการมีจิตสำนึก เกรงกลัวต่อกฎหมายและโทษของการค้ามนุษย์ จนไม่กล้าที่จะกระทำผิดอีกต่อไป
ในส่วนของการดำเนินการกับทางร้าน Cobra Beer Bar บาร์เบียร์ต้นเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้มีการดำเนินการสั่งปิดกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 65