ตาวัย 85 เผยหลานเจ้าบ่าว อดีตนักกีฬาทีมชาติ มีอาการเครียดก่อนเข้าพิธีแต่งงาน จนมาก่อเหตุสลดยิงดับในงาน รวมทั้งตัวเอง 5 ศพ หลังเห็นมีอาการเหม่อลอย ไม่ยอมกินข้าว อีกทั้งมีลางร้าย ธูปที่จุดไหว้ศาลพระภูมิ 9 ดอก มี 1 ดอกที่ไม่ไหม้


เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุสลด เจ้าบ่าวรัวยิงเจ้าสาว แม่ยาย พร้อมญาติเสียชีวิตในงานแต่ง พร้อมกัน 5 คน สาหัส 1 คน เมื่อเวลา 23.25 น. ของวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุกราดยิงเสียชีวิตหลายรายที่บ้านเลขที่ 543 หมู่ที่ 1 บ้านศาลเจ้าพ่อชุมชนป่าขนุนข้างตลาดสดศาลเจ้าพ่อ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 4 ราย และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียวอีก 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา 


ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายจาตุรงค์ สุขสุข (เจ้าบ่าวผู้ก่อเหตุ) ในพื้นที่บ้านโนนท่อ ตำบลกระชอน อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ปรากฏว่าประตูบ้านปิดล็อก บรรยากาศเงียบสงบ ไม่มีผู้ใดอยู่ภายในบ้าน จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่าป้าและแม่ของผู้ตายเดินทางไปติดต่อ ขอรับศพที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

...


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายสว่าง ประดิษฐ์สมบูรณ์ อายุ 85 ปี ตาเขยผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับทางทีมข่าวว่า ทราบมาว่าหลานชายได้คบหาดูใจกับทางเจ้าสาวมาประมาณห้าเดือนก่อนตกลงปลงใจแต่งงานกัน พอถึงวันงานทางครอบครัวได้เหมารถตู้จากอำเภอพิมายไปร่วมงานแต่งของหลานชายที่อำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งตัวของหลานชายไม่ได้นั่งรถไปพร้อมกับทางครอบครัว เนื่องจากว่าหลานชายรออยู่ที่บ้านของเจ้าสาวแล้ว บรรยากาศการเดินทางก็ราบรื่นดี

     

จากนั้นพอมาถึงที่บ้านเจ้าสาวก็เริ่มพิธีทางศาสนาตามปกติ มีการมอบสินสอดให้กับทางเจ้าสาว เงินสดหนึ่งแสนบาท พร้อมสร้อยคอรูปพรรณหนัก 3 บาท ผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อเป็นสิริมงคลแก่คู่รักทั้งสอง ระหว่างที่อยู่ในงานตนเองสังเกตเห็นว่าหลานชายเหม่อลอย คล้ายกับคนกำลังมีความเครียด ไม่ยอมกินข้าว จนกระทั่งเสร็จงานทางครอบครัวก็เดินทางกลับมาที่อำเภอพิมาย

       

จนกระทั่งรุ่งเช้าตื่นมาถึงมาทราบข่าวว่า หลานชายก่อเหตุยิงภรรยาตนเอง และครอบครัว รู้สึกสลดและหดหู่มาก คาดว่าอาจจะเป็นปมปัญหาหลานชายกับทางหลานสะใภ้ที่เคลียร์กันไม่ลงตัว ทำให้หลานชายตัดสินใจก่อเหตุในครั้งนี้


ด้านนายอาคม ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า แจ็คไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมานานแล้วกว่า 20 ปี หลังจากที่พ่อแม่แจ็คได้เลิกรากันไป แม่ของแจ็คก็รับไปดูแลในตัวเมืองโคราช นานๆ ครั้งจะกลับมาเยี่ยมป้า ก่อนวันเกิดเหตุป้าของแจ็คได้มาหาตนเองที่บ้านและบอกว่าจะเชิญไปร่วมงานแต่งของแจ็ค อยากให้มีญาติผู้ใหญ่ไปร่วมงานด้วย แต่เนื่องจากว่าตนเองติดโควิดเลยไม่ได้ไปร่วมงาน มาทราบข่าวอีกทีตอนเช้าตรู่ มีลูกบ้านโทรมาบอกว่ารู้ข่าวไหมว่าแจ็คก่อเหตุยิงยกครัว ทีแรกไม่เชื่อเลยว่าแจ็คจะก่อเหตุยิงเจ้าสาวตัวเองตาย


ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ ได้สังเกตศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่หน้าบ้านพบน้ำแดง 2 ขวด น้ำเปล่า 2 ขวด ซึ่งเพิ่งมีรอยเปิดใหม่ๆ อีกทั้งมีการจุดธูป 9 ดอก เพื่อบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางตามความเชื่อของคนในพื้นที่ ก่อนจะออกเดินทางไปงานพิธีมงคล ปรากฏว่ามีธูปหนึ่งดอกที่ไม่ไหม้ ชาวบ้านในพื้นที่เผยธูปหนึ่งดอกเป็นการไหว้ศพ ต่างเชื่อกันว่าเป็นลางบอกเหตุร้ายในครั้งนี้