เยาวชนวัย 14 ก่อเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอนให้ปากคำได้แล้ว ยอมรับเรื่องปืน แต่ปฏิเสธข้อหายิงคนตาย อ้างทำไปโดยไม่รู้ตัว พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอรวมผลสรุปด้านจิตเวชจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก่อน สรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องสัปดาห์หน้า
ความคืบหน้าเหตุเยาวชนกราดยิงในห้างดังกลางกรุง โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ย. มีรายงานความคืบหน้ากรณีเยาวชน อายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือนางจ้าว จินหนาน นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน วัย 34 ปี นางโม มหยิ่น อายุ 31 ปี ชาวพม่า ลูกจ้างร้านค้าในห้างที่เกิดเหตุ และ น.ส.เพ็ญพิวรรณ หรือหนุงหนิง มิตรธรรมพิทักษ์ อายุ 30 ปี นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คนว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เข้าสอบปากคำเยาวชน อายุ 14 ปี หลังจากเข้ารักษาตัวและประเมินอาการป่วยจากแพทย์ผู้รักษา กระทั่งสามารถที่จะให้ปากคำได้
มีรายงานว่าเยาวชนคนนี้ให้การภาคเสธ ยอมรับและให้การเรื่องของอาวุธปืน แต่ไม่รับในข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ และยังอ้างว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้คาดว่าพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เตรียมสรุปสำนวนคดีส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่จับกุมได้ส่งตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตามขั้นตอน พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุม หลังถูกจับภายใน 24 ชั่วโมง ศาลไต่สวนพบว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องขณะจับกุมผู้ต้องหากระทำผิดจริง
รายงานระบุต่อว่า การขอให้ศาลส่งตัวผู้ต้องหาไปให้แพทย์จิตเวช สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อรักษาจนกว่าผู้ต้องหาจะสามารถต่อสู้คดีได้นั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้นำแพทย์ผู้ทำความเห็นมาให้ศาลได้สอบถามหรือไต่สวนให้ฟังได้ว่าผู้ต้องหาป่วยทางจิตจริง ยังไม่ยุติว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตเวช เห็นควรส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรุงเทพมหานคร และให้สถานพินิจฯ ตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ต้องหา โดยส่งตัวผู้ต้องหาเข้ารับการประเมินสุขภาพจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แทนการคุมตัวไว้ที่สถานพินิจฯ
...
การประเมินจะร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายส่วน อาทิ นักสหวิชาชีพ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาชีพอื่นๆ เป็นต้น ไม่เพียงเฉพาะจิตแพทย์เท่านั้น เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ครบถ้วนมากที่สุดโดยการประเมินของหน่วยงานแต่ละฝ่ายเสร็จสิ้นแล้ว รอผลสรุปร่วมว่าเด็กมีอาการทางจิตหรือไม่เตรียมส่งเด็กกลับมาสถานพินิจฯ ระหว่างนี้ให้ตำรวจเข้าไปสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา และรอรวมผลสรุปด้านจิตเวชผู้ต้องหา ส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
สำหรับเยาวชนผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตรวม 5 ข้อหา
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม