ชายฉกรรจ์ 4 คน คาดเป็นกองกำลังพิทักษ์ประชาชน กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต่อสู้โค่นล้มเผด็จการทหาร จ่อยิงรอง ผบ.ทหารเมียนมา พัน 97 ดับขณะนั่งรอตัดผม ในร้านใจกลางเมืองพญาตองซู ห่างชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี แค่ 300 เมตร
เวลา 09.30 น. วันที่ 23 พ.ย. 2566 มีรายงานจากแหล่งข่าวในพื้นที่เมืองพญาตองซูว่า ได้มีคนราย 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน มาดักรอ พ.ต.เอซัน รอง ผบ.ทหารเมียนมา พัน 97 ซึ่งได้เดินทาง ออกจาก สนง.ตร อ.พญาตองซู บ้านเยสะคาน อำเภอพญาตองซู จังหวัดจะอินเซ็กจี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เพื่อจะมาตัดผมที่ร้าน AEGEL Beauty Salon & Free spa ซึ่งเป็นร้านที่มาใช้บริการตัดผมเป็นประจำ ซอย 1 อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี ซึ่งจุดเกิดเหตุห่างจากบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ บ้านพระเจดีสามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพียง 300 เมตร เท่านั้น
ผู้ที่เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะที่ พ.ต.เอซัน เดินทางเข้ามาที่ร้านตัดผมเพียงลำพัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้นั่งรอเพื่อรอการตัดผม จู่ๆ คนร้ายชาย 2 คน ซึ่งคาดว่าเป็นกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) คอลัมน์มังกรแดง แต่งตัวลักษณะวัยรุ่น เดินเข้ามาก่อนจะใช้ อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงในระยะประชิด เข้าที่ขมับด้านขวาทะลุออกด้านซ้าย เป็นเหตุให้เสียชีวิตล้มลงจากเก้าอี้ที่นั่งรอ ล้มฟุบลงกับพื้น ก่อนจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในเวลาต่อมา แม้ภายหลังเกิดเหตุหน่วยกู้ชีพและทีมแพทย์โรงพยาบาลพญาตองซู จะพยายามเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายความมั่นคงสั่งจับตาสถานการณ์ชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ หวั่นสถานการณ์จะบานปลาย
สำหรับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน กำลังพลส่วนใหญ่คือคนหนุ่มสาว ชาวเมียนมาที่ออกมาเคลื่อนไหวแบบสงบ สันติ ตามแนวอารยะขัดขืน หรือ CDM ในห้วงแรกๆ หลังการรัฐประหารใหม่ๆ จากการสั่งให้ใช้กำลังเข้าปราบปรามอย่างเด็ดขาดรุนแรงจนผู้ประท้วงบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้คนหนุ่มสาวเหล่านี้ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะสันติอหิงสาอย่างเดียวคงไม่สามารถเอาชนะระเบิดและกระสุนปืนของฝ่ายทหารได้ จึงเกิดขบวนการใต้ดินชักชวนกันเข้าไปฝึกเป็นทหารกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยต่างๆ ตั้งแต่กองทัพเอกราชคะฉิ่น และกองทัพสหภาพกะเหรี่ยง รวมทั้งเข้าฝึกกับชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ ที่ยังไม่อยากแสดงตัวเพราะไม่อยากเสียบทบาททางการเมือง
...
แหล่งข่าวระบุว่า หนุ่มสาวเหล่านี้ อายุเฉลี่ยตั้งแต่ 18 ถึง 40 ปี เรียกว่ามีตั้งแต่คนหนุ่มถึงคนวัยฉกรรจ์ พวกเขาทั้งหญิงชายมาจากหลากหลายสถานะ ต่างชนชั้นในสังคม ตั้งแต่นักเรียน นิสิต นักศึกษา อดีตครู หมอ พยาบาล ดารา นางแบบ คนดังในสังคม ยันไปถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานพลเรือนของรัฐบางส่วน คนเหล่านี้ทยอยหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐ ผ่านการจัดตั้งและประสานงานของเครือข่ายใต้ดินที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อนำพาสู่สนามฝึกในพื้นที่ป่าเขา เขตอิทธิพลของกองกำลังชนกลุ่มน้อย โดยมีเป้าหมายเดียวคือการต่อสู้เพื่อประชาชน และโค่นล้มเผด็จการทหาร