รวบหนุ่มหัวใส อาชีพช่างทำทอง ทำแหวนทองยัดไส้เนื้อเงิน หนัก 2 สลึง เร่ขายตามร้านหลอกตุ๋นเงินสูญหลายแห่ง ตำรวจเตือนให้ระวัง พบมีการนำโค้ดจริงตอกให้ดูเนียน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 พ.ย. 66 พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน กล่าวถึงกรณีการจับกุม นายศักดาวิชญ์ กองสมบัติ อายุ 27 ปี ช่างทำทอง ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง หลอกนำแหวนทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง สอดไส้ด้วยเนื้อเงิน เพื่อนำไปขายที่ห้างทองใบเยาวราช ถนนกำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. และตระเวนขายหลายร้าน รวม 7-8 ครั้ง โดยครั้งนี้ได้เงินไป 1.5 หมื่นบาท แต่ถูกฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านจรัญสนิทวงศ์ กทม.
พ.ต.อ.พายัพ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ผู้ต้องหานำแหวนทองมาขายให้กับทางร้านนั้น ทางร้านจึงรับซื้อไว้ จากนั้นได้มีการตรวจสอบกับร้านทองด้วยกัน จนทราบว่ามีการแพร่ระบาดของแหวนทองยัดไส้ด้วยเนื้อเงินมาหลอกขายตามร้านทอง
พ.ต.อ.พายัพ กล่าวต่อว่า ต่อมาผู้เสียหายเกิดความสงสัย เมื่อแกะดูปรากฏว่าเป็นแหวนทองถูกยัดไส้ด้วยเงินจริง ซึ่งลักษณะแหวนจริง 1 วง ในราคา 15,900 บาท ถูกสอดไส้เนื้อเงินมาประมาณ 2 กรัม โดยทำมาลักษณะนี้หลายร้านด้วยกัน ต่อมาฝ่ายสืบสวนตรวจสอบจนทราบตัวผู้ต้องหา เนื่องจากการขายทองจะมีการแจ้งชื่อ-ที่อยู่ของผู้ขายไว้
พ.ต.อ.พายัพ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า ทำมาแล้วหลายครั้ง ที่หลายร้านทอง โดยทางร้านเข้าใจว่าเป็นทองแท้ เนื่องจากว่ามีโค้ดตอกอยู่ใต้แหวน ประกอบกับผู้ต้องหามีอาชีพเป็นช่างทำทองส่งให้กับร้านทอง สำหรับเคสนี้ ผู้ต้องหาทำไว้จำนวน 20 วง เป็นทองแท้จำนวน 10 วง ส่วนอีก 10 วง สอดไส้เนื้อเงินเอาไว้ โดยอาศัยโค้ดของทางร้านทองนำมาตอกเพื่อเอาไปเร่ขาย
...
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านทอง แต่รายนี้มีหลายสาขาด้วยกัน สำหรับเคสนี้ทางผู้เสียหายมีการเจรจากับผู้ต้องหา และผู้ต้องหายินยอมที่จะชดใช้ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทั้ง สน.บางขุนเทียน, สน.บางบอน, สน.ท่าข้าม, และสภ.สมุทรสาคร
"ทางตำรวจจึงขอเน้นย้ำฝากเตือนร้านทองร้านไหน ที่เคยรับซื้อไว้ โดยลูกจ้างทำทองนำไปส่ง ขอให้เคร่งครัดในการตรวจสอบ รวมถึงการให้โค้ดที่นำไปตอกทองคำ อาจทำให้เป็นช่องว่างที่ผู้ต้องหานำไปใช้กระทำความผิดได้ ส่วนร้านทองร้านไหนที่รับซื้อ ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะการถ่ายบัตรประชาชนผู้ขาย และตรวจสอบบัตรประชาชนให้ตรงกับใบหน้าของผู้ขายด้วย เพื่อความง่ายต่อการติดตามจับกุมตัว สำหรับเคสนี้ใช้เวลาเพียง 1 วัน ในการติดตามจับกุม ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 และผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ถัดมาวันที่ 4 พ.ย. ก็สามารถจับคนร้ายไว้ได้" พ.ต.อ.พายัพ กล่าว