"สายไหมต้องรอด" ตั้งคำถามถึงสำนักงานเขตดอนเมือง ทำไมไม่สั่งรื้อบ่อนในสนามฟุตซอลกลางซอยสรงประภา 1 ระบุเป็นบ่อนในตำนาน เปิดมานาน ทางเข้าสลับซับซ้อนหลายประตู ต้องเปิดจากด้านใน ทำเลทอง เข้าออกได้หลายทาง จับกุมยาก แนะตำรวจไล่ตรวจเส้นทางเงิน-ยึดทรัพย์

กรณีตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี และตำรวจ สน.ดอนเมือง กว่า 40 นาย บุกทลายบ่อนกลางสนามฟุตซอล กลางซอยสรงประภา 1 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ สามารถจับนักพนันได้ 53 คน แบ่งเป็นชาย 30 คน หญิง 23 คน พร้อมยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย ถ้วยไฮโล 1 ถ้วย แปลนพนันกำถั่ว 1 แผ่น ลูกเต๋า 52 ลูก ไม้เขี่ยธนบัตร 25 ไม้ อุปกรณ์ตรวจแม่เหล็ก 1 อัน ป้ายกติกาการเล่น 1 แผ่น กระดาษจดสถิติ 6 ใบ ตู้ยิงปลา 1 ตู้ มี น.ส.วิไลวรรณ อายุ 37 ปี รับเป็นเจ้ามือ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2566 ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 เขตสายไหม กทม. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า สำหรับเคสบ่อนการพนันเป็นบ่อนในตำนาน เปิดมานานแล้ว วันนั้นที่เข้าไปทางเข้าสลับซับซ้อนมาก มี 3-4 ประตู การเข้าถึงเป็นเรื่องยาก การจะเข้าไปข้างในได้จะต้องเปิดประตูจากด้านในเท่านั้น แต่เข้าใจว่าการเข้าไปของตำรวจ สน.ดอนเมือง และตำรวจ ดส.ได้นั้น เชื่อว่าสายของตำรวจอาจมาเปิดประตูให้ จึงเข้าไปจับกุมได้ 

วันนี้ต้องฝากสื่อมวลชนไปถามสำนักงานเขตดอนเมืองว่า ทำไมฝ่ายโยธา สำนักงานเขตดอนเมือง จึงไม่สั่งให้รื้อสถานที่ดังกล่าว การติดตั้งลูกกรงต่างๆ ได้ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ สำนักงานเขตจะต้องเข้าไปดู เพราะตำรวจเข้าไปหลายรอบแล้ว ไม่สามารถเข้าไปได้ ที่ผ่านมาตนรับเรื่องร้องเรียนกรณีบ่อนการพนันดอนเมืองหลายครั้งมาก สถานที่ดังกล่าวถือว่าเป็นทำเลที่ดีของผู้ประกอบการบ่อน เพราะสามารถเข้าออกได้หลายทาง การจะเข้าไปจับกุมทำได้ยาก 

...

เมื่อถามว่า จะสามารถเอาผิดเจ้าของสถานที่ได้หรือไม่ นายเอกภพ กล่าวว่า หากตำรวจเอาผิดอย่างจริงจัง คิดว่าสามารถเอาผิดเจ้าของได้อย่างแน่นอน เพราะบ่อนในสมัยนี้จะใช้วิธีการโอนเงิน ก็ให้ไปไล่ตรวจสอบบัญชีดูว่าเงินถูกโอนไปให้ใครบ้าง เส้นทางการเงินไปถึงใคร และควรจะยึดทรัพย์ เพราะการเปิดบ่อนการพนันเป็นความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน จะต้องยึดทรัพย์ด้วย หากนำไปเปรียบเทียบปรับแล้วปล่อยตัว เดี๋ยวบ่อนก็จะกลับมาเปิดใหม่.