"ตำรวจไซเบอร์" จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยเป็น จนท.กรมที่ดิน อ้างเรื่องปักหมุดพิกัดที่ หลอกเหยื่อสแกนใบหน้าดูดเงินจากบัญชี 4 ครั้ง สูญรวมกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อ ต้นเดือน ก.ค.มีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งออนไลน์ว่า มีมิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหายอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดินอ้างว่าเคยส่งหนังสือเรื่องการขอให้ปักหมุดพิกัดที่ดิน ที่ผู้เสียหายครอบครองอยู่ โดยส่งหาผู้เสียหาย 2 ครั้งแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่ติดต่อกลับ มิจฉาชีพจึงแนะนำให้ผู้เสียหายดำเนินการปักหมุดพิกัดที่ดินออนไลน์ อีกทั้งมิจฉาชีพยังสามารถแจ้งข้อมูลที่ดินของผู้เสียหายได้ถูกต้อง จนผู้เสียหายหลงเชื่อ
โดยมิจฉาชีพให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ที่ปลอมขึ้นมาแล้ว ให้ผู้เสียหายโหลดแอปฯ กรมที่ดินปลอม จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายทำการสแกนใบหน้าหลายครั้ง ระหว่างที่คุยกับมิจฉาชีพ และทำตามขั้นตอนที่ปลายสายบอก ผู้เสียหายสังเกตเห็นข้อความแจ้งเตือนเงินออกจากบัญชี ผู้เสียหายตกใจจึงพยายามกดออกจากแอปฯ ดังกล่าวแต่ปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือค้าง ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ จึงถอดซิมออกแล้วทุบโทรศัพท์ตัวเองทิ้ง สุดท้ายเมื่อมาตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าเงินถูกโอนออกไปจากบัญชี จำนวน 4 ครั้ง รวมสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท จึงได้ทำการแจ้งความผ่าน www.thaipoliceonline.com
จากนั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ออกสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เอาผิดกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้อง จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้หลายราย ต่อมาชุดสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลจนทราบว่า มีผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี จึงนำหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ เข้าจับกุมตัว น.ส.พึงชญา อายุ 37 ปี ชาวอุดรธานี ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 ดำเนินคดี
...