ตำรวจราชบุรีโชว์ฝีมือ แกะรอยโจรตัวเอ้ หลอกเช่ารถเก๋งเอาไปจำนำ เจอรถภายในเวลา 2 ชั่วโมงหลังรับแจ้ง ถอดเปลี่ยนป้ายทะเบียนปลอม นำตัวคนรับจำนำไปสอบว่าเป็นแก๊งเดียวกันหรือไม่ พบคนร้ายก่อเหตุในหลายพื้นที่ ใช้การบล็อกสัญญาณแทนการถอดเครื่องจีพีเอส 

เวลา 09.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 66 พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้สั่งการเร่งด่วนให้ ร.ต.อ.สรยุทธ มณฑาทิพย์ รอง สวป.สภ.เมืองราชบุรี พร้อม จนท.ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์และรถ จยย. สายตรวจตำบล สายตรวจจราจร สภ.เมืองราชบุรี ติดตามและสกัดจับ นายเอกชัย พันธ์ศักดิ์ หรือ เอ อายุ 36 ปี ชาว จ.ภูเก็ต ผู้เช่ารถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน (ป้ายแดง) ส 2562 กรุงเทพมหานคร โดยขอเช่าจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง แถวแฟชั่นไอส์แลนด์ เขตคลองสามวา จ.กรุงเทพฯ เป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา แจ้งว่าจะใช้ขับภายใน จ.กรุงเทพฯ 

จากนั้น นายเอกชัย ได้ออกอุบายแจ้งเจ้าของเต็นท์รถว่า จะขับรถมาหาซื้อรถตู้สองมือแถว จ.สมุทรสงคราม ก่อนจะบล็อกไลน์และช่องทางติดต่อ และใช้เครื่องบล็อกสัญญาณ GPS นำรถมาจำนำในพื้นที่ จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้เข้าแผนสกัดจับและแกะรอยจากหมายเลขโทรศัพท์ จนสามารถติดตามรถคันดังกล่าวไว้ได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมง ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนป้ายทะเบียนเดิม เป็นทะเบียน (ป้ายแดง) ก 9271 นนทบุรี และนำมาจอดไว้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านแถว ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี 

ด้านเจ้าของบ้านได้อ้างว่า รถคันนี้น้องที่รู้จักได้รับจำนำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน และนำรถมาฝากจอดไว้ที่หน้าบ้าน ตำรวจจึงเชิญตัวเจ้าของบ้านและผู้รับจำนำรถ ไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อหาความเชื่อมโยงว่ามีส่วนพัวพันกับขบวนการรับจำนำรถขายประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ และเอาผิดด้วย เพราะจากการตรวจสอบประวัติ นายเอกชัย มีหมายจับในหลายคดี ทั้งฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ พกพาอาวุธปืน และก่อเหตุลักษณะเดียวกัน เกี่ยวกับเช่ารถไปจำนำในหลายพื้นที่ โดยเตรียมขออนุมัติหมายจับ นายเอกชัย มาดำเนินคดี

...

น.ส.ปรมาภรณ์ ฐานิตสรณ์ หรือ มุก อายุ 19 ปี ลูกสาวเจ้าของเต็นท์ให้เช่ารถเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา นายเอกชัย หรือ เอ ได้ติดต่อขอเช่ารถผ่านมาทางพาร์ตเนอร์ของเต็นท์ โดยขอเช่ารถยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน (ป้ายแดง) ส 2562 กรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 2 วัน ในราคาวันละ 1,300 บาท อ้างว่าจะใช้ขับขี่หาซื้อรถตู้มือสองใน จ.กรุงเทพฯ ซึ่งในวันนั้นที่ นายเอกชัย มาเช่ารถ มีลูกค้ามาขอเช่ารถหลายคัน จึงไม่ทันตรวจเช็กประวัติข้อมูลผู้เช่ารถ ก่อนปล่อยรถให้เช่าไป 

จนช่วงบ่าย นายเอกชัย แจ้งว่า จะไปดูรถตู้แถว จ.สมุทรสงคราม จนเวลาประมาณ 22.00 น. แฟนได้พยายามส่งใบสัญญาเช่ารถให้ นายเอกชัย ตรวจเช็ก แต่พบว่าถูกบล็อกไลน์และโทรติดต่อไม่ได้ จึงตรวจสัญญาณ GPS พบรถอยู่แถวอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน กทม. จึงเดินทางไปดูแต่ไม่พบรถ ทำให้มั่นใจว่าถูก นายเอกชัย หลอกเช่ารถไปขาย ก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่โรงพักแถวพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งทางตำรวจได้ตรวจเช็กประวัติ นายเอกชัย พบว่ามีหมายจับในหลายคดีและหลายพื้นที่ ทั้งคดีฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ พกพาอาวุธปืน เช่ารถเอาไปจำนำและขาย

น.ส.ปรมาภรณ์ กล่าวต่อว่า จนช่วงเช้าวันนี้ (1 ต.ค.) แฟนของเธอพยายามตรวจสัญญาณ GPS พบรถกำลังมุ่งหน้าเข้า จ.ราชบุรี จึงแจ้งตำรวจทางราชบุรีให้ช่วยสกัดจับ จนตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ช่วยแกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์จนพบรถ โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง รถถูกจอดไว้ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี แต่ถูกเปลี่ยนป้ายทะเบียน ตำรวจได้ส่งรูปให้ดูว่าใช่รถคันนี้หรือไม่ จึงรีบเดินทางมาดูรถ และพบว่าเป็นรถของเธอจริง ทำให้ดีใจมากเพราะรถคันนี้ทางเต็นท์เพิ่งออกรถมาได้ไม่นาน ในราคา 749,000 บาท

"ยอมรับว่า นายเอกชัย เป็นโจรมืออาชีพ เพราะวางแผนและเตรียมการมาเป็นอย่างดี ทั้งใช้เครื่องบล็อกสัญญาณ GPS แทนการถอด GPS ออก เพราะถ้าถอดออก คอลเซ็นเตอร์จะโทรแจ้งเจ้าของเต็นท์รถทันที แถมมีการเตรียมป้ายทะเบียนไว้เปลี่ยนหลังได้รถไป ซึ่งทีแรกจะถอดใจแล้ว คิดว่าคงไม่เจอรถแน่นอน ต้องขอขอบคุณตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ทุกนายที่ใส่ใจ และช่วยกันสกัดจับรถให้ สุดท้ายอยากฝากถึงผู้ประกอบการเช่ารถ ขอให้ตรวจเช็กข้อมูลประวัติคนเช่ารถให้ละเอียดรอบคอบ อย่าละเว้น และพยายามตรวจสอบ GPS ให้บ่อยครั้ง เพราะเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมาทุกรูปแบบจริงๆ" น.ส.ปรมาภรณ์ ลูกสาวเจ้าของเต็นท์รถ กล่าวด้วยสีหน้าดีใจ.