"กองปราบ" รอผลกู้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดบ้านกำนันนก คาดกู้ได้ 100% ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เพื่อนำประกอบสำนวนในการแจ้งข้อหาตำรวจเพิ่มเติม และรอหลักฐานประกอบ ทั้งนี้ ยังพบเส้นทางการเงินของ "กำนันนก" มอบให้ "หน่อง ท่าผา" โอนไปยังตำรวจ 5 นายต่อเนื่อง ขณะที่ผลชันสูตร "ผกก.เบิ้ม" ฆ่าตัวตาย


เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าการรวบรวมหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนคดียิง สารวัตรศิว พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ทั้งพยานในที่เกิดเหตุและนิติวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกันกำลังรอผลการกู้เซิร์พเวอร์กล้องวงจรปิดที่ได้จากบ้านของ กำนันนก ที่นำไปทิ้งน้ำก่อนหน้านี้ โดยกองปราบได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ไปกู้ภาพในห้องปฏิบัติการ คาดว่าจะได้รับผลราววันที่ 14-15 ก.ย. ที่จะถึงนี้ หากกู้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่จะใช้ในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

    

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสืบสวนและสอบปากคำพยานจนถึงขณะนี้ สามารถรวบรวมรายชื่อบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดได้แล้ว พบว่ามีอยู่จำนวน 55 คน ประกอบไปด้วยตำรวจ ลูกน้องกำนันนก และผู้มาร่วมงานที่อยู่ภายในบ้านกำนันนก ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องเรียกทั้งหมดมาสอบปากคำให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการดำเนินคดีตำรวจไปแล้วจำนวน 6 นาย ในฐานความผิดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ก็มีแนวโน้มว่า จะมีการแจ้งข้อหาเจ้าที่ตำรวจบางนายเพิ่มเติม เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนจะมีจำนวนกี่นายนั้นขึ้นอยู่กับคำให้การของพยานและหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่กำลังกู้ นำมาประกอบการพิจารณา

...

     

มีรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของ กำนันนก นายหน่อง มือปืนที่ถูกวิสามัญฆาตกรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ พบว่า 5 ใน 6 นายตำรวจ ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ มีเส้นทางการเงินที่สัมพันธ์กัน คือ มีเส้นทางการเงินจาก นายหน่อง ถูกโอนไปยังนายตำรวจ 5 นายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ครั้งละหลักพันจนถึงหลักหมื่นบาท สอดคล้องกับแนวทางการสืบสวนของชุดสืบสวนกองปราบ หลังพบว่า นายหน่อง จะทำหน้าที่ถือเงินแทนกำนันนก เพื่อใช้จ่ายต่างๆ นานาแทนกำนันนก หรือจ่ายเงินตามที่กำนันนกสั่งการ ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า กำนันนก มีส่วนพัวพันกับแก๊งพนันออนไลน์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

    

ส่วนความคืบหน้าคดีของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ผู้บังคับบัญชาของ สารวัตรศิว ที่ยิงตัวเองเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น มีรายงานว่า การตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ ได้เสร็จสิ้นตั้งแต่เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา และได้นำศพส่งแผนกนิติเวชศาสตร์ รพ.ภูมิพล เพื่อตรวจพิสูจน์


จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบรอยกระสุนเข้าที่ศีรษะบริเวณขมับด้านขวา 1 รู กระสุนทะลุออกขมับด้านซ้าย พบอาวุธปืนตกอยู่ขนาด 9 มม. ทะเบียนปืน นฐ. 03/4500091 พร้อมแม็กกาซีนบรรจุในรังเพลิง โดยตกอยู่ด้านขวา ห่างจากศีรษะประมาณ 1 ฟุต มือขวาตั้งค้างอยู่ข้างลำตัว 

จากการสันนิษฐานท่ายิงก่อนเสียชีวิต ผู้ตายน่าจะหยิบอาวุธปืนออกมาจากตู้ด้านซ้าย ตรงกลางด้านบนมีจอทีวีขนาดใหญ่ แล้วนั่งชันเข่า จากนั้นถืออาวุธปืนด้วยมือขวา แล้วจ่อที่ขมับข้างขวา กระสุนทะลุและน่าจะตกอยู่ที่ด้านซ้ายของผู้ตาย พบเศษเนื้อสมองกระเด็นติดที่ผนังบ้านฝั่งซ้าย ขณะชันสูตรสภาพศพแข็งตัวตั้งแต่ช่วงลำตัวจนสุดด้านล่าง แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วระหว่าง 8-12 ชม. 

...

     

สำหรับร่องรอยคราบเลือดที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ที่มีหลายฝ่ายสงสัยว่าอาจจะมีการเคลื่อนศพ เจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์แล้วพบว่า ร่องรอยดังกล่าวเกิดจากโรบอตดูดฝุ่น ซึ่งเครื่องหมุนทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดรอยดังกล่าว สำหรับเสียงอาวุธปืนที่ ผกก.เบิ้ม ลั่นไกนั้น ยืนยันได้จากกล้องวงจรปิดแล้วว่าดังเพียงหนึ่งนัดเท่านั้น ซึ่งเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตามเวลากล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน คือ เวลา 04.55.47 น. ส่วนเวลาลั่นไกจริงคือ เวลา 04.54.32 น. โดยรายละเอียดทั้งหมด ได้ถูกบันทึกไว้ในสำนวนการชันสูตรพลิกศพเป็นที่เรียบร้อย.