แม่ค้าสาววัย 26 ตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้ออนไลน์ หวังนำเงินมาลงทุนค้าขาย สุดท้ายจ่ายไม่ไหว ถูกขูดรีดดอกเบี้ย รวมค่าปรับทบต้นรวมดอกเป็นเงิน 2.6 ล้านบาท จากกู้มาแค่ 5 แสนบาท ถูกขู่คุกคาม ต้องเข้าพึ่งตำรวจช่วยเหลือ เกรงจะกลัวถูกทำร้าย  ยันไม่มีเจตนาเบี้ยว พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อ ขณะที่ ผู้การนครพนม จ่อเอาผิดนายทุน ผิด พ.ร.บ.ทวงหนี้ พร้อมสั่งเข้มปราบปรามเอาผิด


เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ที่ จ.นครพนม ได้มีสาวแม่ค้า อายุ 26 ชาว อ.ปลาปาก ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ พร้อมสะท้อนเตือนภัยสังคม กรณีหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบ ในรูปแบบออนไลน์ หลังตกงาน หวังหาเงินมาลงทุนค้าขาย จึงพบเห็นมีการเปิดให้กู้ผ่านระบบออนไลน์ แอปพลิเคชันไลน์ จึงทดลองเข้าไปทักแชต สอบถามรายละเอียดพูดคุย ก่อนแจ้งข้อมูลเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ พร้อมได้รับอนุมัติวงเงินกู้ งวดแรก จำนวน 30,000 บาท แต่ถูกหักดอกเบี้ยล้วงหน้า 10,000 บาท รับเงินจริง แค่ 20,000 บาท เงื่อนไขส่งคืนเต็ม 30,000 บาท ในเวลา 7 วัน แต่งวดแรกหาเงินส่งคืนทัน 


ต่อมางวดที่สองจึงได้รับอนุมัติวงเงินกู้เพิ่ม เป็นเงิน 50,000 บาท หักดอกเบี้ยล่วงหน้าตามเดิม รับเงินจริง จำนวน 32,000 บาท กำหนดจ่ายเงินคืนภายใน 7 วัน จากนั้นเกิดปัญหาสภาพคล่อง นำเงินไปค้าขาย ไม่สามารถส่งคืนได้ตามกำหนด จึงตัดสินใจไปกู้ผ่านระบบออนไลน์ เจ้าอื่น เพื่อหมุนเวียนในรอบ 2-3 เดือน ไม่ทราบมาก่อนว่าหากเลยกำหนดชำระ จะถูกเรียกทั้งดอกเบี้ย รวมถึงค่าปรับล่าช้า อีกหลาย 10 เท่า จนกระทั่งเกิดปัญหาทับถม ทั้งต้นทั้งดอกจากการกู้ออนไลน์ รวม 18 เจ้า เป็นหนี้ทั้งต้นทั้งดอก รวม 2.6 ล้านบาท ถูกติดตามให้ชำระต้นรวมดอกวันละประมาณ 1.5 แสนบาท แต่ไม่ไหว ทำให้ถูกคุกคามข่มขู่ทุกรูปแบบ พร้อมโพสต์ประจาน เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ จึงเกรงจะเกิดอันตรายกับตนและครอบครัว 

...


จึงได้เข้าแจ้งความเป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก เพื่อพิจารณาดำเนินคดีในส่วนที่มีความผิดเกี่ยวกับการทวงหนี้ รวมถึงออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อ สะท้อนปัญหาไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตือนภัยสังคม เรียกร้องให้ภาครัฐปราบปรามจริงจัง โดยยืนยันไม่มีเจตนาเบี้ยวหนี้ แต่พร้อมที่จะชำระหนี้ตามกฎหมาย และดอกเบี้ยตามความเป็นจริง


โดย สาวแม่ค้าวัย 26 ปี เปิดเผยว่า ยืนยันไม่มีเจตนาจะเบี้ยวหนี้ แต่เริ่มแรกต้องการนำเงินมาลงทุนค้าขาย เพราะตกงาน จึงทดลองกู้ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่คิดว่าจะได้จริง จึงทำการกู้รอบแรก และมีการชำระคืน จนได้วงเงินเพิ่มอีกเท่าตัว จากนั้นมีข้อพิรุธว่า จะมีนายทุนเงินกู้นอกระบบออนไลน์อีกจำนวนมากเข้ามาทักแชตผ่านไลน์ ชักชวนให้กู้ยืม ส่วนใหญ่จะเป็นไลน์อวตาร์ไม่มีตัวตน จึงหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ มารู้ทีหลังว่าเป็นนายทุนคนเดียวกัน แต่ทำงานเป็นทีม ยอมรับหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเพราะคิดง่าย ปัจจุบันเป็นหนี้ทบต้นดอก และรวมค่าปรับล่าช้า รวม 2.6 ล้านบาท ถูกข่มขู่ให้ผ่อนชำระวันละ ประมาณ 1.5 แสนบาท ทั้งที่รับเงินจริงแค่ 4-5 แสนบาท สุดท้ายไม่มีความสามารถที่จะจ่ายไหว ทำให้ถูกข่มขู่คุกคามจะทำร้ายทุกรูปแบบ จึงต้องออกมาขอความช่วยเหลือจากทางภาครัฐหน่วยงานตำรวจ และสะท้อนปัญหาผ่านสื่อ เตือนภัยสังคม และเรียกร้องให้ปราบปรามขบวนการปล่อยเงินกู้ออนไลน์อย่างจริงจัง โดยพร้อมที่จะชดใช้หนี้ตามกฎหมาย เป็นยอดเงินตามจริงที่รับเงินมา แต่หากถูกข่มขู่คุกคาม ทวงหนี้ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินคดีเช่นกัน ปัจจุบันยังมีการโทรมาข่มขู่คุกคามทุกวัน และยืนยันคำเดียวจะให้ชำระหนี้คืนทั้งหมด ไม่ให้ผ่อนชำระ ไม่มีส่วนลด


ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ย.) พล.ต.ต.ธวัช ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ได้หาทางดูแลช่วยเหลือตามข้อกฎหมาย มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก พื้นที่รับผิดชอบ เชิญตัวผู้เสียหาย มาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาหลักฐานที่เข้าข่ายเอาผิดนายทุนเงินกู้ออนไลน์ จะมีความผิดเกี่ยวข้องคือ ฐานความผิดเกี่ยวกับปล่อยกู้นอกระบบผิดกฎหมาย รวมถึง ฐานทวงหนี้ผิด พ.ร.บ.ทวงหนี้ โดยจะต้องดูหลักฐานข้อมูลจากการสอบสวน อย่างไรก็ตาม จะได้หารือช่วยเหลือตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มในการป้องกันปราบปราม ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากปัจจุบันกำลังแพร่ระบาด สำหรับนายทุนเงินกู้ออนไลน์ ที่หลอกเชิญชวนประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ พร้อมฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ