กู้ภัย 2 ค่าย ระหว่างอาสากู้ชีพนครรังสิต กับ มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดศึกแย่งคนเจ็บบริเวณซอยรังสิต-นครนายก 26 ก่อนอีกฝ่ายยิงปืนลงพื้นเพื่อขู่อีกฝ่าย จนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจ สภ.ประตูน้ำฯ ต้องลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหย่าศึก ก่อนที่ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปแล้ว
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ก.ย. 66 ร.ต.อ.นพพร แสงสว่าง รอง สว.สอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งมีเหตุกู้ภัยยิงกันบริเวณใกล้เคียงปากซอยรังสิต-นครนายก 26 ถนนเลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮง 1946 กรุงเทพมหานคร เปิดไฟวับวาบจอดอยู่ข้างทาง ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นรถของอาสากู้ชีพนครรังสิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเพื่อนที่มาด้วยกันได้พาตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปที่โรงพัก เพราะเบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บโดนปลอกกระสุนปืนกระเด็นใส่ที่บริเวณแขนซ้าย
...
จากการสอบถาม นายศุภณัฐ สุวรรณฉิม อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดคูคต กล่าวว่า ปลอกลูกกระสุนกระเด็นใส่ตอนที่ยืนคุยอยู่กับอาสานครรังสิต บอกมีอะไร ตัวๆ ไหม ตนจึงได้เดินเอากระเป๋าไปเก็บ ก่อนที่จะเดินกลับมาอีกรอบมายืนตรงหน้า จังหวะนั้นอีกฝั่งชักปืนออกมา ก่อนยิงลงพื้นที่บริเวณข้างๆ ตัวตน โดยหลังจากที่ยิงเสร็จแล้วก็เอาปืนเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ตนก็พยายามแย่งปืนเพื่อจะเอาออกมา โดยคนที่ยิงนั้นมักจะมีปัญหากับอาสาฯ ในพื้นที่อยู่บ่อยๆ
ด้าน นายวรเชษฐ์ พาสี อาสาร่วมกตัญญู กล่าวว่า ตอนแรกพวกตนมาถึงที่เกิดเหตุกัน โดยรับคำสั่งจากตำรวจ พอมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุได้ชะลอรถเปิดไฟ แล้วก็แจ้งไปทางกู้ชีพปทุมธานีว่าเขาเจอเหตุ แต่แท้จริงทางร่วมปทุมได้รับงานมาแล้ว แล้วพอมาถึงก็มีอาสามาสนับสนุน แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุเขาก็ได้จอดรถขวางบริเวณตรงจุดนี้ ก่อนที่จะพูดว่า ทำไมมีอะไรกัน ตัวๆ เปล่า เราจึงบอกไปว่า มีอะไรค่อยๆ คุยกัน ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปเอาปืนในรถ แล้วก็ชักยิงลงพื้น โดยปลอกกระสุนกระเด็นไปโดนอาสาฯ ได้รับบาดเจ็บที่หน้าแขนซ้าย โดยเหตุแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยเพราะเราทำตามหน้าที่ ถ้าเขามีงาน เราก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว ซึ่งหลังจากยิงเสร็จ พวกตนก็ปรี่เข้าไปเพื่อจะแย่งปืน เพราะว่าไม่รู้ว่าจะยิงอีกหรือไม่ และได้วิ่งหลบหนีไป โดยบุคคลดังกล่าวมาถึงก็แสดงอาการไม่พอในตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ขณะที่ นางสาวนา อาสาสมัครกู้ชีพเทศบาลนครรังสิต แฟนของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนกับแฟนได้ไปส่งผู้ป่วยที่โรงพยาบาลปทุมเวชมา ก่อนที่จะมาเจอเหตุ จึงได้แจ้งไปทางกู้ชีพ แต่ทางร่วมฯ เพิ่งจะแจ้งว่าเพิ่งออกมา แต่เมื่อมาเจอเรากำลังช่วยคนเจ็บอยู่ พอมาถึงพวกเขาก็มาโวยวายด่าเราว่าจะมาแจ้งแบบนี้ไม่ได้ ตนเองก็เลยบอกไปว่าก็มาเจอพอดี แล้วก็ด่าโวยวาย พอตำรวจมาก็บอกให้ใจเย็นๆ ตนเองจึงได้โทร 1669 (ศูนย์กู้ชีพปทุมธานี) ว่าใครแจ้งก่อน ทางศูนย์บอกว่าเราแจ้งก่อนจึงได้ให้รหัสเหตุมา จากนั้นเราก็ได้นำคนเจ็บขึ้นรถมา ก่อนที่พวกเขาจะด่าโวยวาย เราก็เลยบอกว่าให้ใจเย็นๆ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อาสาร่วมก็ได้ขับรถมา 2 คัน แล้วปาดหน้ารถเรา เพื่อไม่ให้รถเราไป โดยเป็นรถตู้กับรถกระบะ แล้วเขาก็ลงจากรถมาที่รถเราหลายคน แล้วก็มายื่นด่าแฟนเราที่ข้างประตูรถ ซึ่งเราก็เข้าใจเเฟนเราเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน คือเรื่องจริงมันน่าจะจบตั้งแต่ที่เกิดเหตุแล้ว แต่ก็ไม่จบ แล้วจากนั้นก็มีรถร่วมตามมาอีกคันมาจอดปิดท้ายรถอีกคัน แฟนเราก็กลัวไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีอะไรมาหรือเปล่า จึงได้ยิงลงพื้นไป 1 นัดก่อนวิ่งหลบหนีไป.
...