นนทบุรี โซเชียลชื่นชม ส.ต.ต.หนุ่ม สภ.ไทรน้อย ทำรถสายตรวจล้มทับรถ จยย.สาว กระจกหัก ไฟเลี้ยวแตก แล้วเขียนโน้ตเสียบทิ้งไว้ พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย ขณะที่ "ผู้กำกับ" ในฐานะคนเป็นนาย ควักกระเป๋าจ่ายให้

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์รูปกระดาษแผ่นหนึ่งที่ติดอยู่หน้ารถ จยย. โดยมีข้อความเขียนทิ้งไว้ว่า "ผม ส.ต.ต.ทักษ์นัย สภ.ไทรน้อย ผมทำรถมอไซค์ตำรวจคว่ำทับรถมอไซค์คุณ กระจังหน้าหัก ไฟเลี้ยวแตก ผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ครับ ติดต่อกลับไลน์นี้" สร้างความประทับใจให้กับหญิงสาวเจ้าของรถ จยย.เป็นอย่างมาก จนได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาเผยแพร่เพื่อชื่นชมตำรวจคนดังกล่าวที่มีสำนึกในความรับผิดชอบ พร้อมข้อความว่าขอชื่นชม #ตำรวจไทรน้อยค่ะ ที่มีความรับผิดชอบ #ขอบคุณนะค่ะ ทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นยกย่องชื่นชมตำรวจคนดังกล่าวอย่างมากมาย 

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่เดินทางไปที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยได้พบกับ น.ส.สุภาพันธ์ นรจ้อย อายุ 29 ปี ทำงานพนักงานห้างแห่งหนึ่งที่บางใหญ่ สอบถามถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

โดย น.ส.สุภาพันธ์ นรจ้อย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังตนกลับจากทำงาน เมื่อลงรถตู้โดยสารมาพบว่ารถจักรยานยนต์ของตนที่จอดไว้อยู่ในสภาพแปลกๆ จนไม่แน่ใจว่ารถที่เห็นใช่รถของตนหรือไม่ เพราะสภาพรถมันแปลกๆ กระจกมองข้างด้านขวาหัก ครอบไฟเลี้ยวซ้ายแตก และบังโคลนหน้ามีรอย เมื่อเข้าไปสำรวจใกล้ๆ ก็พบว่ามีกระดาษโน้ตเขียนข้อความเสียบไว้ที่ช่องเก็บของหน้ารถ โดยข้อความระบุว่า "ผม ส.ต.ต.ทักษ์ดนัย สภ.ไทรน้อย ผมทำรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจล้มทับรถมอเตอร์ไซค์คุณ กระจกครับไฟเลี้ยวแตกผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ ติดต่อกลับโทรเบอร์หรือไลน์นี้"

...

น.ส.สุภาพันธ์ กล่าวว่า หลังทราบความจริงจากข้อความในกระดาษแล้ว ตนได้ขี่รถ จยย.ของตนกลับบ้านพัก เมื่อกลับไปถึงบ้านจึงให้แฟนเป็นคนโทรศัพท์หาตำรวจคนดังกล่าวตามเบอร์ที่ให้ไว้ ซึ่งตำรวจคนดังกล่าวก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และให้แฟนของตนเอารถ จยย.ที่ได้รับความเสียหายไปซ่อมได้เลย โดยทางเขายินดีเป็นผู้จ่ายค่าซ่อมให้ทั้งหมด ต่อมาเมื่อวานนี้ตนจึงได้นำรถ จยย.ไปซ่อมที่ร้าน ทางช่างก็คิดค่าซ่อมมาเป็น 400 บาท เมื่อตนได้แจ้งค่าซ่อมไป ตำรวจคนดังกล่าวก็โอนเงินมาให้ทันที จากนั้นเมื่อวานนี้ตอนค่ำ ตนก็ได้พบเจอกับตำรวจคนดังกล่าว ในขณะที่เขามาออกตรวจอยู่ที่ร้านทองพอดี โดยเขายังได้กล่าวขอโทษตนอีกครั้งที่ทำให้เสียเวลาต้องเอารถไปซ่อมด้วย

น.ส.สุภาพันธ์ กล่าวอีกว่า เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกดีใจและประทับในตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวที่เป็นคนมีความรับผิดชอบ มีจิตสำนึกที่ดี เพราะถ้าเป็นคนอื่นมาทำรถตนเสียหาย ตนคิดว่าตนคงต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าซ่อมรถเอง เพราะจุดที่ตนนำรถไปจอดเพื่อขึ้นรถตู้ไปทำงานนั้นเป็นจุดที่มีคนนำรถ จยย.มาจอดเยอะ ซึ่งจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครเป็นคนทำ ด้วยความประทับใจตนจึงได้นำรูปจดหมายที่เขียนข้อความโดยตำรวจคนดังกล่าวไปโพสต์ลงในโซเชียลเพื่อชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ให้สังคมโซเชียลรับรู้ในมุมดีๆ ของตำรวจบ้าง

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับ ส.ต.ต.ทักษ์ดนัย มณีวรรณ ผบ.หมู่(ป.) สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้เขียนจดหมายน้อยแผ่นดังกล่าว เปิดเผยว่า ในวันนั้นตนได้มาออกตรวจที่ร้านทองที่อยู่ติดกับร้านสะดวกซื้อ โดยตนได้จอดรถ จยย.แล้วตั้งขารถเสร็จ จึงก้าวลงจากรถ จยย.ทางด้านซ้าย แต่ปรากฏว่าเมื่อตนหันหลังเดินไป รถ จยย.สายตรวจที่ตนขี่มา ได้ล้มไปทับรถ จยย.ของน้องผู้เสียหายที่จอดอยู่ ทำให้เบ้ากระจกแตก ไฟเลี้ยวซ้ายแตกและมีรอย ตนจึงได้เรียกเพื่อนตำรวจที่มาออกตรวจด้วยกัน ยกรถสายตรวจที่ล้มทับ และยกรถ จยย.ของน้องเขากลับมาตั้งไว้เหมือนเดิม เมื่อตรวจสอบความเสียหายของรถน้องเขาแล้วจึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้ และเขียนโน้ตใส่กระดาษไปเสียบเอาไว้ที่ช่องเก็บของหน้ารถคันที่ล้ม เพื่อให้เจ้าของรถติดต่อกลับมา เนื่องจากเมื่สอบถามคนในละแวกดังกล่าวแล้วทราบว่าเจ้าของรถจะกลับมาตอนดึก ด้วยความที่ต้องออกไปตรวจตราในพื้นที่ต่อจึงตัดสินใจเขียนโน้ตเอาไว้ ซึ่งหลังจากนั้นน้องเขาติดต่อกลับมาตนก็จ่ายเงินค่าซ่อมรถให้เขาไป ส่วนที่เป็นกระแสชื่นชมในโซเชียลนั้น ตนไม่ทราบเพราะไม่ค่อยได้เล่นโซเชียล เพิ่งมาทราบข่าวจากพี่ๆ ตำรวจด้วยกันเป็นคนมาบอก

ต่อมาหลัง พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงได้สอบถามไปยังหัวหน้างานของ ส.ต.ต.ทักษ์นัย จนทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ ส.ต.ต.ทักษ์นัย กำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยออกตรวจสถานที่ที่รับผิดชอบ ประกอบกับ ส.ต.ต.ทักษ์นัย ได้แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ตนในฐานะหัวหน้าสถานีที่ผู้ใต้บังคับบัญชาออกไปทำหน้าที่ตามคำสั่ง จึงได้จ่ายซ่อมรถ จยย.ที่เกิดความเสียหายให้ทั้งหมด เพื่อรับผิดชอบแทน และเป็นกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย.