ตำรวจนครบาล ช่วยนักศึกษาสาว ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกว่า พัวพันยาเสพติดให้ไปเช่าห้องกบดาน แล้ววิดีโอคอลคุยบังคับให้ทำตามสั่ง ขู่จะดำเนินคดี แล้วส่งอีกทีมตีเนียนซ้อนแผนเรียกค่าไถ่ 3 ล้านจากครอบครัวน้อง แลกความปลอดภัย พบจุดสั่งการอยู่กัมพูชา

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ จัดชุดสืบสวนเข้าดำเนินการโดยเน้นความปลอดภัยของผู้เสียหาย และให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายโดยเร็ว
พฤติการณ์เมื่อวันที่ 11 ส.ค. เวลา 12.56 น. คนร้าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร. หา นางสาวเอ (นามสมมติ) นักศึกษา ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยย่านลาดกระบัง กทม. อ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทย แจ้งว่าตัวนางสาวเอ เป็นผู้ส่งพัสดุผิดกฎหมาย ได้ถามย้ำว่าใช่ตัวนางสาวเอ เป็นผู้ส่งหรือไม่ นางสาวเอ ตอบว่าไม่ใช่ จึงแนะนำให้ไปแจ้งความ โดยอ้างว่าพัสดุส่งจากจังหวัดสงขลา จึงต้องไปแจ้งความที่จังหวัดสงขลา นางสาวเอ บอกไม่สะดวก บุคคลที่อ้างตัวว่าเป็น จนท.ไปรษณีย์จึงอาสาประสานติดต่อตำรวจให้เพื่อแจ้งความเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์มีการโอนสายให้บุคคลที่อ้างว่าเป็น ตำรวจ นางสาวเอจึงได้แจ้งความตามเรื่องที่ จนท.ไปรษณีย์ไทยอ้าง ให้ ตำรวจทราบ เพื่อแจ้งความ และตำรวจได้ทำทีเช็กประวัติ และอ้างว่าพบบัญชีธนาคารของนางสาวเอเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน ตร. จึงได้สอบถามข้อมูลการเงินของนางสาวเอ โดยให้นางสาวเอ รวมเงินจากทุกบัญชีธนาคารที่มีเข้ามาในบัญชีธนาคารเดียวของนางสาวเอ และโอนเข้าบัญชีคนร้ายโดยอ้างว่าเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยละเอียดว่า เกี่ยวข้องกับขบวนฟอกเงินหรือไม่

...

จากนั้นสอบถามว่าตัวนางสาวเออยู่ไหน น้องตอบว่าอยู่มหา'ลัย จึงให้น้องย้ายสถานที่ไปโรงแรมใกล้มหา'ลัย น้องจึงเลือกโรงแรมแถว สนามบินสุวรรณภูมิ ต่อมาตำรวจที่คุยช่วงแรกได้ให้คุย ตำรวจยศใหญ่ อ้างว่า เป็นผู้กำกับ สังกัด ปปง. ได้สอบถามว่าที่บ้านประกอบธุรกิจอะไร น้องบอกข้อมูล ชื่อ สกุล เบอร์โทรของพ่อแม่ไป ทั้งนี้คนร้ายได้ขอตรวจสอบหลักทรัพย์ บัญชีธนาคารของพ่อแม่น้อง โดยให้น้องบอกแม่ว่า น้องถูกลักพาตัว เพื่อให้แม่โอนเงินมาตรวจสอบด้วยความรวดเร็ว ในระหว่างที่อยู่โรงแรมห้ามน้องติดต่อใคร โดยบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจจะติดต่อกับแม่เอง โดยบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจแจ้งว่า เมื่อตรวจสอบเสร็จจะโอนคืนเงินทั้งหมดให้

ส่วนคนร้ายอีกทีม จะโทร. ติดต่อแม่ของน้อง ด้วยไลน์ของน้อง ซึ่งน้องได้ให้รหัสคนร้ายไว้ จึงทำให้แม่เชื่อว่าลูกสาวอยู่กับคนร้าย และตกอยู่ในอันตราย โดยคนร้ายขู่จะตัดนิ้วของน้อง ถ้าแม่ไม่โอนเงิน จำนวน 3 ล้านบาทเข้าบัญชีของน้อง

ต่อมาครูและคุณพ่อได้แจ้งขอความช่วยเหลือต่อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น.พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธนพล มโนษรรอง สว.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. กับพวกออกติดตามช่วยเหลือน้อง และติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายดังกล่าว จากการตรวจสอบได้เข้าตรวจสอบน้องอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียว โดยคนร้ายรีบตัดสายสนทนาทิ้งทันที โดยจากการสืบสวนพบว่าคนร้ายทั้งหมดได้กระทำความผิดอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยใช้การโทรศัพท์ และควบคุมเหยื่อด้วยการวิดีโอคอล

...

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า เป็นวิธีการกระทำความผิดแบบใหม่ของคนร้าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ จะแยกการหลอกเหยื่อ และผู้ปกครองเหยื่อ โดยอ้างใช้การเรียกค่าไถ่ และข่มขู่จะตัดนิ้วเพื่อให้ผู้ปกครองยอมโอนเงินทั้งหมดให้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังเพื่อออกปฏิบัติการเนื่องจากผู้ปกครองเป็นห่วงความปลอดภัย เข้าใจว่าเป็นเรื่องเรียกค่าไถ่จริง สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเป็นอย่างมาก อยากประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันในรูปแบบใหม่ของขบวนการคอลเซ็นเตอร์นี้ และขอเตือนคนไทยที่ร่วมกระทำผิด.