เหิมมาก "กองปราบ" รวบแก๊ง "เสธ.ทหาร" แอบอ้างมูลนิธิชัยพัฒนา ตุ๋นเงินชาวบ้าน ลุยยกกำลังค้นหลายพื้นที่เป้าหมาย ก่อนจับ 7 ผู้ร่วมขบวนการ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ส.ค. 66 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุพจน์ น้อยสวรรค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งอ้างตัวเป็น เสธ. หลอกลงทุน โครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาฯ หลังนำกำลังลุยค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, เชียงใหม่, ลำปาง และสุพรรณบุรี จับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดได้ 7 ราย ประกอบด้วย 1. นายสมชาย หรือผู้กองเป็ด นามโสม อายุ 59 ปี 2. นายสุริยพันธ์ หรือผู้กองจอร์ท สัตยาพิทักษ์ อายุ 61 ปี 3. นายอัครวัฒน์ หรือเสธหนุ่ม พรหมคำน้อย อายุ 59 ปี 4. นายประสาร หรือเสธแดง แสงสว่าง อายุ 65 ปี 5. นายนิพนธ์ ภูคงคา อายุ 61 ปี 6. น.ส.วราภรณ์ สุวรรณคำมูล อายุ 58 ปี และ 7. นายสมศักดิ์ ขันทอง อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา "ฉ้อโกง และ ฉ้อโกงประชาชน" พร้อมของกลาง เอกสารโครงการรับเหมาก่อสร้างต่างๆ จำนวน 20 โครงการ สมุดบัญชีธนาคาร 18 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 3 ใบ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
พล.ต.ต.มนตรี เผยว่า เมื่อต้นปี 2564 ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก มูลนิธิชัยพัฒนา ว่ามีกลุ่มบุคคลแอบอ้างมูลนิธิจัดทำโครงการแก้มลิง ในพื้นที่ภาคอีสาน จำนวน 90 โครงการ หลอกลวงเงินจากผู้ประกอบการรับเหมารายย่อยและชาวบ้าน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1.5 ล้านบาท หลังรับเรื่องได้สั่งให้ กก.3.บก.ป.จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสคนร้ายกลุ่มนี้
...
ผบก.ป. กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายจะอ้างตัว เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ เป็นตัวแทนจากมูลนิธิชัยพัฒนา กำลังจัดทำโครงการ ขุดลอกหนองน้ำ ของมูลนิธิฯ เป็นโครงการช่วยเหลือประชาชน และกำลังมีนโยบายเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมารายย่อยในพื้นที่ภาคอีสานได้รับงาน ทั้งนี้แต่ละโครงการจะมีงบประมาณสนับสนุน เป็นเงินหลัก 100-1,000 ล้านบาท หากใครสนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องจ่ายเงินค่าซื้อแบบโครงการจากกลุ่มผู้ต้องหา เป็นค่าแบบโครงการ จะเริ่มต้นที่ราคา 17,500 บาท ไปจนถึง 90,000 บาท สำหรับราคาขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และงบประมาณของโครงการที่จะได้รับ
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามักจะใช้สถานที่ราชการเป็นสถานที่นัดประชุม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ละครั้งที่มีการจัดประชุมจะมีคนที่สนใจเข้าร่วมประชุมประมาณ 50-60 คน ที่ผ่านมามีการนัดประชุมมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง อย่างไรก็ตามหลังจากมีการจ่ายเงินซื้อแบบโครงการและร่วมทำสัญญาว่าจ้าง (MOU) แล้ว กลุ่มผู้ต้องหาจะเริ่มตัดขาดการติดต่อก่อนเชิดเงินทั้งหมดของผู้เสียหายหนีหายไป
พ.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า จากสวนสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบมีผู้ร่วมกระทำผิด 10 ราย มีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนายหน้าผู้ชักชวน จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1. นายสมชาย หรือผู้กองเป็ด 2. นายสุริยพันธ์ หรือผู้กองจอร์ท 3.นายอัครวัฒน์ หรือเสธหนุ่ม 4. นายนิพนธ์ และ 5. นายประสาร หรือเสธ.แดง ส่วนผู้ต้องหากลุ่มที่สอง ที่ทำหน้าที่เป็นบริษัทหน้าม้า อีกจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1. นายกิตติศักดิ์ สายพรม อายุ 58 ปี 2. น.ส.เมตตา ขันทอง อายุ 53 ปี 3. น.ส.วราภรณ์ อายุ 58 ปี 4. นายสมศักดิ์ อายุ 51 ปี 5. นายเลิศพงศ์ ชัยวงค์เลิศ อายุ 60 ปี
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติทั้งหมด พบ นายประสาร กับ นายสุริยพันธ์ นั้นอดีตเคยรับราชการทหารสังกัดหนึ่งจริง ส่วนที่เหลือเป็นการแอบอ้าง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 7 รายดังกล่าว ยังเหลือนายกิตติศักดิ์ กับ น.ส.เมตตา ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ส่วน นายเลิศพงศ์ นั้นถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำแล้ว จากการถูกจับในคดีอื่น
...
ด้าน พ.ต.ท.สุพจน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ จากการซักถามผู้ต้องหาทั้งหมดส่วนใหญ่ชี้ว่า ทำตามคำสั่งของ นายสมชาย หรือผู้กองเป็ด โดยไม่ทราบว่าเป็นการหลอกลวงเงินชาวบ้าน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จาการตรวจค้นยังพบรายชื่อโครงการต่างๆ เช่น
1. โครงการก่อสร้างทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาพุทธมณฑลร้อยเอ็ดและโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาโครงการส่งเสริมการกีฬาให้กับเยาวชนและการท่องเที่ยว งบประมาณ 850 ล้านบาท (โครงการ พ.ศ. 2566 จ.ร้อยเอ็ด)
2. โครงการรถไฟฟ้ารางเบา LRT สายสีแดง จ.ขอนแก่น (โครงการปี พ.ศ. 2565 จ.ขอนแก่น)
3. โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้า อนุรักษ์ป่าโคกดินแดงให้เป็นป่าเฉลิมเกียรติ และส่งเสริมการเกษตรตามแนวพระราชดำริ (โครงการปี พ.ศ. 2564 จ.กาฬสินธุ์)
4. เอกสารโครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำระบบแก้มลิงแก่งน้ำต้อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น (โครงการปี พ.ศ. 2566 จ.กาฬสินธุ์)
...
5. เอกสารโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเขื่อนลาวเกาะมหาราช และส่งเสริมการเกษตรตามแนวพระราชดำริ (ไม่พบข้อมูลข่าวเปิด จ.กาฬสินธุ์)
6. เอกสารโครงการรถไฟรางคู่ สายสุราษฎร์-สงขลา (โครงการปี พ.ศ. 2566 จ.สุราษฎร์ธานี)
7. โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเขื่อนลำปาว เกาะมหาราช และส่งเสริมเกษตรกรตามแนวพระราชดำริภายในเขตเทศบาลตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ (โครงการปี พ.ศ.2564 จ.กาฬสินธุ์)
8. โครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย ม.7 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จว.บึงกาฬ (โครงการปี พ.ศ. 2566 จ.บึงกาฬ)
ทั้งนี้คาดว่ากลุ่มผู้ต้องหาอาจนำเอาชื่อโครงการดังกล่าวมาแอบอ้างว่าบริษัทของตนได้รับสัมปทาน และนำไปหลอกลวง ประชาชนหรือกลุ่มผู้รับเหมาที่สนใจ เพราะทั้ง 8 โครงการนี้เป็นของภาครัฐที่กำลังจะจัดทำขึ้นจริง