ญาติวอนค่ายทหารชี้แจงสาเหตุทำ "พลทหาร" ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิต ลั่นหากไม่ได้รับความเป็นธรรม เตรียมแบกโลงศพบุกถึงค่าย แฉอีก "แดนสนธยา" ครูฝึกลงโทษพลทหารอย่างไม่มีเหตุผลบ่อยครั้ง ซ่อมหนัก โหม่งโลก
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีพลทหารป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด และทรุดหนักจนไปเสียชีวิตที่ รพ. ญาติเชื่อโดนครูฝึกทำโทษจนป่วยและเสียชีวิต ร้องขอทางค่ายออกมาชี้แจงและแสดงความรับผิดชอบ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะนำโลงบรรจุศพไปขอความเป็นธรรมถึงในค่ายทหาร ด้านค่าย ร.17 พัน.3 ต้นสังกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในค่ายเม็งรายมหาราช แต่สังกัดกองพลทหารราบที่ 7 จ.เชียงใหม่ ยังไร้การชี้แจงและเยียวยา
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.แก้วกัลยา แซ่ลี อายุ 26 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เผยว่า ปกตินายกิตติธร เวียงบรรพต อายุ 27 ปี แฟนหนุ่มพลทหารใหม่ของค่าย ร.17 พัน.3 เป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว และไม่เคยเจ็บป่วยหนักมาก่อน แต่พอมาเป็นทหารเกณฑ์ได้เพียงแค่ 2 เดือน กลับต้องป่วยหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต
น.ส.แก้วกัลยา เผยอีกว่า จากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับแฟนและเพื่อนๆ ทหารของแฟน ในตอนที่ทางค่ายได้เปิดให้ญาติไปเยี่ยมนั้น ทราบมาว่าทางครูฝึกได้ลงโทษพลทหารอย่างไม่มีเหตุผลบ่อยครั้ง บางทีไปดื่มเหล้าเมากลับมาก็จะมาระบายอารมณ์กับทหารใหม่ โดยจะหาเรื่องมาลงโทษจนบางครั้งก็แทบจะไม่ได้นอน
...
อย่างล่าสุดที่มาเยี่ยมแฟนเมื่อวันที่ 9 ก.ค. แฟนก็เล่าว่ามีเพื่อนพลทหารนำเอาบุหรี่มาสูบ แต่ครูฝึกจับได้และรู้ว่าใครเป็นคนทำผิด แต่ก็ยังโดนสั่งลงโทษพลทหารทั้งหมด โดยให้วิ่งกระโดดเอาหน้าอกสไลด์ไปบนแอ่งน้ำที่ขังอยู่บนสนาม และให้นอนหลับไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่ให้อาบน้ำ แฟนต้องทนนอนหนาวสั่นบนพื้นปูนแข็งๆ ทั้งคืน และคาดว่าจะมีอาการไม่สบายมาตั้งแต่ตอนนั้น
และแฟนยังเคยเล่าให้ฟังอีกว่า ที่ค่ายนี้ยังมีการลงโทษหลายอย่าง ซึ่งค่ายฝึกหลายๆ แห่งน่าจะยกเลิกไปแล้ว แต่ที่นี่ครูฝึกก็ยังเอามาลงโทษอยู่ เช่น ให้เอาหัวตั้งพื้นและเอามือไขว้หลัง และตอนวันครบกำหนดฝึก 2 เดือน ตนและญาติก็ได้เดินทางไปที่ค่ายเพื่อไปรับตัวแฟน แต่ทั้งแฟนและเพื่อนทหารบอกว่าแฟนไม่สบายมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ทางค่ายไม่ยอมให้ไปรักษาตัวที่ รพ. แฟนขออนุญาตแล้วแต่ทางค่ายปฏิเสธ ถ้าหากค่ายอนุญาตให้แฟนไปรักษา ก็คงจะตรวจเจอความผิดปกติไวกว่านี้ และไม่ต้องมาเสียชีวิตแบบนี้
ตนคิดว่าทางค่ายฝึกหนักเกินไป จนทำให้แฟนต้องเสียชีวิต ตนยังทำใจยอมรับกับความสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้ ตอนนี้ทางค่ายยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอะไร มีแค่เพียงครูฝึกที่มาพูดคุยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค. แต่ข้อมูลก็ไม่ตรงกับที่แฟนเล่าให้ฟังก่อนตาย หลังจากนี้ตนอยากจะขอเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแฟน เพราะรับไม่ไม่ได้ที่แฟนต้องตายจากไปทั้งอย่างนี้
"ตนและแฟนเคยวางอนาคตร่วมกันว่า หากปลดประจำการทหาร แฟนก็จะไปทำงานเก็บเงินที่ประเทศเกาหลีสัก 2 ปี หลังจากกลับมาแล้วก็จะเปิดโรงเรียนสอนภาษาเกาหลี เพราะเขาจบด้านภาษาเกาหลี ก่อนหน้าจะแต่งงานกัน เขาก็ไปทำงานที่เกาหลีมาก่อน แต่พอแฟนมาเสียชีวิตไปอย่างนี้ ตนก็รู้สึกเคว้งคว้างเป็นอย่างมาก ทุกอย่างมันพังทลายลงไปหมดแล้ว หลังจากนี้ตนและลูกจะดำเนินชีวิตต่อไปยังไง เพราะที่ผ่านๆ มา แฟนเขาเป็นเสาหลักของครอบครัวมาโดยตลอด
อยากวอนขอหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้ความเป็นธรรมกับแฟนของตนที่เสียชีวิต ไม่อยากให้แฟนต้องตายฟรี อยากให้ค่ายออกมาชี้แจงและแสดงความรับผิดชอบบ้าง" น.ส.แก้วกัลยา กล่าว
แฟนสาวของพลทหารที่เสียชีวิตยังเล่าอีกว่า ก่อนที่จะไปส่งแฟนไปรักษาตัวที่ รพ. ตอนที่ยังพูดรู้เรื่อง แฟนได้บอกว่าหากเขาไม่อยู่แล้วก็ให้ดูแลลูกให้ดีๆ นะ และให้โทรไปบอกแม่ให้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้หายป่วย ถ้าหายป่วยแล้วจะกลับไปแก้บนด้วยตนเอง แต่แฟนกลับต้องมาด่วนตายจากกันไปเสียก่อน และเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ได้ตื่นมากลางดึก และมองเห็นแฟนหนุ่มนอนหลับอยู่ข้างๆ สีหน้าท่าทางเหมือนตอนยังมีชีวิตขณะกำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ. จึงคิดว่าเขาคงยังมีห่วง ไม่อยากจากไปเร็วแบบนี้
ด้าน นายเอกชัย ร่มพนาธรรม น้าชายของผู้ตาย กล่าวว่า ตอนนี้ยังพูดไม่ออก ยังรู้สึกเจ็บปวดกับการสูญเสีย อยากได้คนของเรากลับคืนมา เวลานี้ทางค่ายอยากจะพูดอะไรก็ได้ เพราะคนตายพูดอะไรไม่ได้ พวกตนไม่มีเส้นสาย ไม่มีเงิน ถ้าให้สู้กันพวกตนก็คงสู้ไม่ได้ แต่พวกตนอยากได้รับความเป็นธรรม อยากให้ทางค่ายได้ออกมาชี้แจง ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ได้ทำ จะให้พวกตนจบง่าย พวกตนไม่ยอม ถ้าหากสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับลูกหลานของท่าน ตนคิดว่าเรื่องคงจะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน
...
"ตนขอกราบวิงวอนผู้หลักผู้ใหญ่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ คืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของตนด้วย ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวรู้สึกเสียใจ และจะไม่จัดงานศพจนกว่าทางค่ายจะออกมารับผิดชอบ ถ้าไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ เราจะพาศพผู้เสียชีวิตเดินทางไปหาถึงที่ในค่าย ไปขอความชัดเจน จากใจของครอบครัวผู้สูญเสีย" นายเอกชัย กล่าว
ล่าสุด ทางญาติได้ส่งศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตเพิ่มเติมแล้ว และทาง สภ.เมืองเชียงราย ซึ่งทางญาติได้ไปแจ้งความไว้ ทาง พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ก็ได้กำชับให้ตำรวจในสังกัด ทำคดีด้วยความละเอียดรอบคอบและรัดกุม เพราะเป็นคดีที่เป็นที่สนใจของสังคม และให้รายงานผลความคืบหน้าเป็นระยะอีกด้วย.