ผกก.สน.บางเขน ยืนยัน "มิ้นท์" ไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกาย "น้องใหม่" ตามที่ "แจ๊บ" ให้การกล่าวอ้าง ขณะที่มีคนเล่าประสบการณ์ เห็นวิญญาณ "น้องใหม่" ตอนตี 3 นั่งห้อยขาบนถังน้ำแข็ง เด็กน้อยมาโรงพักกับแม่ โบกมือเรียก "พี่ๆ" ทำเอาขนหัวลุก
กรณีนายยุทธนา หรือแจ๊บ มาดี อายุ 29 ปี ใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตี ด.ญ.อริศสา หรือใหม่ ถิราวัฒน์ อายุ 12 ปี ลูกเลี้ยงเสียชีวิต ก่อนนำศพยัดถังน้ำแข็งโบกปูน-เทดินทับอีกชั้นเพื่ออำพราง นำไปซุกไว้ในห้องครัวบ้านเช่าเลขที่ 92/50 หมู่บ้านสินทรัพย์นคร ถนนพหลโยธินซอย 48 แยก 19 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.บางเขน แจ้งข้อหาช่วยผู้อื่นกระทำความผิด ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพเพื่ออำพรางกับ น.ส.นิรมล หรือมิ้นท์ พรหมคุณ อายุ 30 ปี ภรรยาของนายยุทธนา เนื่องจากปรากฏภาพกล้องวงจรปิด เจ้าตัวอยู่ด้วยตลอดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า การแจ้งข้อหา น.ส.นิรมล พรหมคุณ หรือ มิ้นท์ ภรรยาของนายยุทธนา มาดี หรือ แจ๊บ ว่าทำไมถึงแจ้งคนละข้อหา ทั้งที่มิ้นท์ ก็ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดขณะที่นายแจ๊บก่อเหตุ แต่นายแจ๊บถูกแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แต่ทำไมไม่เป็นข้อหา ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพราะจากกล้องวงจรปิดนายแจ๊บใช้ไม้เบสบอลทำร้ายผู้เสียชีวิตจริงแต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าหรือตั้งใจทุบไปที่บริเวณศีรษะ ส่วน น.ส.มิ้นท์ ที่ไม่ถูกแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เนื่องจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุทั้งหมดตำรวจตรวจสอบแล้วไม่พบว่า น.ส.มิ้น ร่วมทำร้ายร่างกายด้วย ปรากฏเพียงแค่นั่งอยู่ในที่เกิดเหตุเพียงเท่านั้น จึงไม่เข้าข่ายร่วมทำร้ายร่างกายแต่เข้าข่ายไม่ให้การช่วยเหลือ
...
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามิ้นท์ลบภาพกล้องวงจรปิดช่วงก่อนเกิดเหตุและตัดมาเฉพาะช่วงที่นายแจ๊บทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตที่นำมาเป็นหลักฐานส่งมอบให้ตำรวจนั้น ตนยืนยันว่า หลังจากที่ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของมิ้นท์ตำรวจได้กลับไปไล่กล้องจนได้ภาพทั้งหมดและ ยืนยันได้ว่ามิ้นท์ไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตตามที่นายแจ๊บให้การกล่าวอ้างไปก่อนหน้านี้
ส่วน ผลการตรวจร่างกายและผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ขนาดนี้ยังรอผลการตรวจ แต่หากผลการตรวจออกมาแล้วปรากฏหลักฐานว่า น.ส.มิ้นท์ หรือนายแจ๊บมีพฤติการณ์ เจตนาฆ่าผู้เสียชีวิตก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สน.บางเขน นัดหมาย น.ส.มิ้นท์ มาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อผัดฟ้องฝากขังต่อไป
มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวแห่งหนึ่ง เจอวิญญาณ ของน้องใหม่คดีฆาตกรรมโบกปูนใส่ถังน้ำแข็ง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (7 ก.ค.) และยังมีคนอื่นเจอเรื่องแปลกๆ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำถังน้ำแข็งของกลางในคดีกลับมาเก็บรักษาที่ห้องเก็บของกลาง ชั่วคราวบริเวณทางเข้าประตูเล็กมีประตูเหล็กกั้น (ปิดถาวร) หน้าอาคารฝั่งขวาของอาคารสน.บางเขน
นายต่อ ไม่เปิดเผยนามสกุล เจ้าของรถยกเอกชนที่จอดประจำ สน.บางเขน กล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 7 ก.ค. ตนและเพื่อนกำลังเข้าเวร และมาจอดรถพักรอเหตุที่บริเวณหน้า สน.บางเขน มีน้องอีกคนที่อยู่ในทีมเจอเหตุการณ์ ขณะเดินไปที่รถตัวเองน้องทำท่าตกใจอะไรบางอย่าง จากนั้นน้องมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อกี้เห็นเงาคล้ายคนนั่งอยู่บนถังน้ำแข็ง ที่อยู่ตรงช่องทางเดินขึ้นบันไดด้านข้าง สน.ที่ปิดประตูเหล็กไว้ ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเป็นถังน้ำแข็งของกลางในคดีน้องใหม่ จากนั้นชวนกันไปดูจึงรู้ว่าเป็นถังที่เป็นข่าว พอออกเวรช่วงเช้าน้องก็ยังบอกว่าจะไปใส่บาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้น้องที่เสียชีวิต
และยังมีชาวบ้านที่พาลูกมาเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้จุดที่วางถัง เล่าให้ฟังว่า ขณะพาลูกชายอายุประมาณ 2-3 ขวบมาเข้าห้องน้ำ พอทำธุระเสร็จแม่เห็นน้องหันหลังไปโบกมือ แม่ก็ถามว่าโบกมือให้ใคร เด็กบอกว่าพี่สาวนั่งอยู่ตรงนั้น พอหันไปดูก็ไม่เห็นใครทำเอาแม่ตกใจรีบพาน้องออกมา และมารู้ภายหลังว่ามีถังน้ำแข็งวางตรงนั้น
“ส่วนตัวมีความเชื่ออยู่บ้าง แต่ก็เป็นความเชื่อแต่ละบุคคล การที่น้องมาให้เห็นก็อาจจะมาสื่อสารให้รู้ว่ายังอยู่ตรงนี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับถังน้ำแข็งของกลางดังกล่าวพนักงานสอบสวน สน.บางเขน นำส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา แล้วเมื่อตรวจสอบเสร็จนำกลับมาเก็บไว้ที่ สน.ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) เพื่อรอการนำเข้าไปเก็บในห้องของกลาง ขณะที่มีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ มิ้นท์ ผู้ต้องหาในคดี ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและพิมพ์ลายนิ้วมือ เตรียมส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังในวันรุ่งขึ้น โดยมีรายงานข่าวว่าระหว่างที่มิ้นท์ เดินทางมาถึง สน.บางเขน จู่ๆ ไฟของ สน. ก็ดับพรึบทีนที ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่าอาจเป็นเพราะไฟฟ้าขัดข้อง หรือ เพราะอาถรรพณ์กันแน่.