เจ้าของผลิตภัณฑ์กลูต้า ที่ตกเป็นข่าวนักเรียนสอบติด "เภสัช" ตรวจฉี่ไม่ผ่าน พบมีสารยาบ้า เชื่อต้นตอมาจากอาหารเสริมที่กินเข้าไป เตรียมฟ้องกลับดำเนินคดี 2 แม่ลูก เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้าน โดยให้ไปพิสูจน์ความจริงที่ศาล

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ เลขที่ 194 ซอยรามอินทรา 52/1 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. น.ส.อภิรมณ สุขสีทา กรรมการผู้มีอำนาจ (เจ้าของ) บริษัท ธันญ์รดา 59 จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์กลูต้าที่ตกเป็นข่าว กรณีมีผู้เสียหาย น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์กลูต้า ทำให้ผิวขาวทางอินเทอร์เน็ตมากินแล้วไปตรวจร่างกายที่ รพ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ แพทย์ไม่สามารถ ออกใบรับรองเพื่อจะนำไปใช้มอบตัวเข้าศึกษาต่อคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในภาคอีสานได้ ทำให้ผู้ปกครองต้องพาแจ้งความ ว่าทานผลิตภัณฑ์กลูต้า แล้วพบสารแอมเฟตามีนตามที่สื่อเผยแพร่ ร่วมกับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ หรือทนายเดชา ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงแนวทางการดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากทำให้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเสียหาย พร้อมมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ต่อหน้าสื่อมวลชน

...

น.ส.อภิรมณ ระบุว่า ตนได้รับแจ้งจากแม่ของเด็กเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ลูกสาวได้กินกลูต้าของบริษัทตัวเอง แล้วตรวจพบสารเสพติด พอตนได้รับทราบก็รีบสอบถามข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะรีบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวเอง แม่น้องบอกว่า ลูกของตนเป็นคนดีและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อีกทั้งกำลังเข้ามหาวิทยาลัยแต่ผลตรวจร่างกายก่อนรายงานตัว จึงไม่สามารถเข้าเรียนได้ เลยขอถามตนว่าจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างใด ตนยืนยันว่า ตนเปิดขายกลูต้ามาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้ว ก็ไม่เคยปรากฏเจอปัญหาสารแปลกปลอมปนเปื้อนเหมือนเคสนี้ ขอไปตรวจสอบกลูต้าของตนก่อนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป แม่ของน้องกล่าวว่าจะนำกลูต้าไปตรวจสอบซ้ำเช่นกัน ทางตนก็ยินดี 

ปรากฏว่าในวันถัดมา กลูต้าของตนตกเป็นข่าวว่ามีสารเสพติดโดยการให้ข่าวของแม่ลูกคู่นี้ ทั้งที่คุยกันแล้วว่าจะนำผลิตภัณฑ์ของตนไปตรวจสอบก่อน ทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทตนอย่างมากและเสียชื่อเสียง อีกทั้งข่าวที่นำเสนอออกไปโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้หลายคนและเกิดข้อสงสัย จนส่งผลกระทบทำให้ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ตนเองไปมากกว่า 50 ราย ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมสำหรับตนอย่างมากและทำให้ธุรกิจของตนได้รับความเสียหาย 

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กลูต้าตน ได้รับการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และใบรับรองจากโรงงานแล้วว่า ไม่พบสารเสพติดหรือสารปนเปื้อนแต่อย่างใด อีกทั้งหลังเป็นข่าวก็นำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกรอบเมื่อ 29 พ.ค. เพื่อความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้ขอชะลอการผลิตแล้ว 

น.ส.อภิรมณ ยอมรับว่า พอทราบข่าวก็สติแตก กระทบกับธุรกิจตัวเองอย่างมาก ขอยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ตนเองปลอดภัย บริสุทธิ์ใจ แต่หลังจากนี้คงต้องใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อป้องกันตัวเอง ธุรกิจของตนกำลังเติบโต แต่ข่าวที่ออกมาทำให้ธุรกิจเกือบพังทลาย แต่ยังให้โอกาสเจรจา ขอให้แม่ลูกติดต่อกลับมาพูดคุย เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย 

ด้านทนายเดชา ระบุว่า ตนได้รับมอบหมายให้เตรียมฟ้องดำเนินคดีกับแม่ลูกคู่นี้ ในข้อหากล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงของบริษัทตนเอง เสียชื่อเสียง แผนการตลาดธุรกิจต่าง ๆ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และตาม พ.ร.บ.คอมพ์ รวมทั้งฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้านกับแม่ลูกคู่นี้ โดยให้ไปพิสูจน์ความจริงที่ศาล ทั้งยังมองว่า แม่คู่กรณีนี้ยังคงให้ข่าวไม่หยุด ชัดเจนว่ามีเจตนาไขข่าวว่ากลูต้ามีสารเสพติด ถือว่ารุนแรงและทำให้บริษัทเสียหาย แม้ผลของลูกออกมาเป็นลบก็ยังไม่หยุด ดูแล้วไม่น่าจะเป็นการให้ข่าวด้วยความเป็นธรรมโดยไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งนี้ จะให้ระยะเวลาแม่ลูกติดต่อกลับมาสักระยะก่อน หากไม่รีบติดต่อกลับมาจะฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ทันที 

จากนั้น มีการสาธิตการทานกลูต้าเพื่อความบริสุทธิ์ปลอดภัย โดยให้ผู้บริโภคตัวอย่างซึ่งทานเป็นประจำมา 3 เดือน และทานครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาตอนเที่ยงคืนของวันนี้มาแล้ว 2 เม็ด ผู้บริโภครายนี้ทานให้ดูอีกรอบจำนวน 2 เม็ดต่อหน้าสื่อ หลังจากนั้นก็นำผงในแคปซูลยาไปตรวจ โดยนำชุดตรวจยาเสพติดจาก สน.โคกคราม มาใช้สาธิต พบว่าจากการนำตัวอย่างน้ำละลายกลูต้า ชุดตรวจขึ้น 2 ขีด ซึ่งแสดงผลว่า ไม่พบสารแอมเฟตามีนแต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจปัสสาวะของตัวอย่างผู้บริโภครายนี้ พบว่าชุดตรวจขึ้น 2 ขีด ไม่พบสารเสพติดดังกล่าวแต่อย่างใด หลังจากนี้จะนำผลตรวจไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.โคกคราม ต่อไป 

...