ชุดสืบนครบาลตามรวบสองพี่น้องภัยสังคม แฝดนรก "ปาน-ปาย" อายุ 19 ปี ก่อคดีโชกโชน หมายจับเพียบ ล่าสุดหลอกเด็ก ม.ต้น ใน จ.ราชบุรี และใกล้เคียงไปข่มขืนหลายราย พี่ชายโดนจับก่อนปฏิเสธ และซัดทอดน้องชาย ปากดีบอกเด็กๆ น่ารัก ชอบชุดนักเรียน อยากเจอเมนส์ ไม่อยากเจอหมาก  

วันที่ 29 พ.ค. 66 กรณีเตือนภัยชาวราชบุรีและใกล้เคียงคู่แฝดออกตระเวนข่มขืนเด็กทั่ว จ.ราชบุรี โดยหลอกเหยื่อผ่านเฟซบุ๊ก ล่าสุดมีผู้ปกครองเหยื่อเด็กหญิงกล้าเข้าแจ้งความ จำนวน 4 ราย จากการสืบสวนล่าสุด พบว่ายังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ยังไม่กล้าเข้าแจ้งความ เนื่องจากเกรงกลัวแฝดนรกคู่นี้ บางรายถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า ไม่กล้าออกจากบ้าน บางรายพยายามทำร้ายตัวเอง เป็นที่หวาดผวาให้กับเหล่าผู้ปกครองในพื้นที่ จ.ราชบุรี ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งชุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 นำกำลังติดตามจับกุมตัวแฝดนรกคู่นี้ให้ได้โดยเร่งด่วน เพราะเกรงว่าเด็กผู้หญิงจะตกเป็นอันตรายเพิ่ม เหยื่อรายหนึ่งให้ข้อมูลชุดสืบสวนว่า 2 แฝดบอกชอบเด็ก และไม่ชอบคนรุ่นเดียวกัน ชอบพูดว่า "อยากเจอเมนส์ ไม่อยากเจอหมาก" เด็กๆ น่ารักกว่า และชอบชุดนักเรียน” 

ต่อมา วันที่ 28 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัว 1. นายยุทธนา ปาน แฝดผู้พี่ อายุ 19 ปี ภายในแคมป์คนงานไม่มีเลขที่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี และ 2. นายวันธนะ หรือ ปาย แฝดน้อง อายุ 19 ปี จับกุมได้ที่บ้านพักใน ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี กล่าวหา พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร, กระทำอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

...

เบื้องต้นในชั้นจับกุม นายยุทธนา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งได้โยนความผิดให้แฝดน้อง จากนั้นนายยุทธนา สมัครใจพาเจ้าหน้าที่ไปชี้ยังบ้านพัก ซึ่งนายวันธนะพักอาศัยอยู่ในภูมิลำเนา จ.สุพรรณบุรี เพื่อจับกุมนายวันธนะ สำหรับนายวันธนะ หรือ ปาย เป็นผู้ต้องหา 3 หมายจับ 1. หมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.219/2566 ลงวันที่ 23 พ.ค. 66 ข้อหา “พรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น พาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม กระทำอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน”

2. หมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ 221/2566 ลงวันที่ 23 พ.ค. 66 ข้อหา “โดยปราศจากเหตุอันควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น พาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม”

3. หมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.222/2566 ลงวันที่ 23 พ.ค. 66 ข้อหา “พราก และพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารฯ, กระทำอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามฯ” ในชั้นจับกุมนายวันธนะผู้ต้องหาที่ 2 ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองนำส่ง พงส. สภ.จอมบึง

สำหรับพฤติการณ์ ช่วงเดือน ก.พ. 66 เป็นต้นมา ได้เกิดเหตุเด็กหญิงชั้น ม.ต้น อายุไม่เกิน 15 ปี ถูก “แฝดนรก” ข่มขืนกระทำชำเรา โดยทั้งสองจะล่อลวงเด็กหญิงทางเฟซบุ๊ก คัดเหยื่อชั้น “ม.ต้น” ทำทีชวนไปเที่ยวห้างโรบินสัน แต่สุดท้ายถูกพาไปข่มขืนในบ้านร้าง ซึ่งผู้ปกครองของเหยื่อได้พาเด็กหญิงที่ถูกกระทำชำเราเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบผู้ถูกจับฝาแฝดทั้ง 2 พบว่าแฝดทั้ง 2 มีประวัติต้องโทษความผิดเกี่ยวกับทรัพย์และความผิดเกี่ยวกับเพศโชกโซน โดยนายยุทธนา แฝดผู้พี่ พบประวัติต้องโทษจำนวน 6 คดี เป็นความผิดฐาน “ลักทรัพย์” ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี 3 คดี ความผิดเกี่ยวกับเพศในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี อีก 3 คดี  ส่วนนายวันธนะ แฝดผู้น้อง พบประวัติต้องโทษจำนวน 8 คดี ความผิดฐานลักทรัพย์ ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี  3 คดี ความผิดเกี่ยวกับเพศในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และกรุงเทพ 4  คดี และความผิดเกี่ยวกับเพศในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี อีก 1 คดี

นายวันธนะ หรือ ปาย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขณะจับกุมว่า จบการศึกษาชั้น ป.5 และช่วงเป็นเยาวชนเคยอยู่ในแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์ และโดนจับกุมในวัยเด็ก 3 ครั้ง เรื่องลักทรัพย์ และเคยถูกจับคดีขายยาเสพติด 2,000 เม็ด ทั้งหมดอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี และพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน เม.ย. 65 ปัจจุบันทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถ ไม่ได้ศึกษาต่อ ชอบเด็กไม่ชอบคนแก่ อยากเจอเมนส์ ไม่อยากเจอหมาก และเด็กๆ นั้นน่ารักกว่า

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งภัยสังคมที่พี่น้องประชาชนในชุมชนและสังคมที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตของเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ แผ่นดินสูงขึ้นเมื่อคนร้ายทั้งคู่ถูกจับกุม จึงขอฝากผู้ปกครอง บุตรหลาน รวมถึงบุคคลใกล้ชิดในครอบครัว จำเป็นต้องช่วยกันสอดส่อง เตือนภัย และเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน จากกลุ่มเพื่อนหรือบุคคลแปลกหน้าในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเข้ามาพูดคุย ตีสนิท และชักชวน อาจทำให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนร้าย หรือตกเป็นเหยื่อของกลุ่มเหล่านี้ดังกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อันจะส่งผลกระทบเป็นบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจต่อตัวบุตรหลานในระยะยาว ซึ่งจะเดินหน้าขจัดปัดเป่าภัยในรูปแบบดังกล่าวให้ถึงที่สุด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. หากใครมีเบาะแสของเหยื่อรายอื่นเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่เพจ FACEBOOK “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง “ความเดือดร้อนของท่าน คือ หน้าที่ของเรา”