ลุงวัย 62 อดีตลูกจ้าง อบจ.สุพรรณบุรี พกปืนบุกเคลียร์เพื่อนบ้าน ปมเผาฟาง เปลวไฟทำต้นไทรเกาหลีที่ปลูกไว้เหี่ยวเฉา เถียงกันอยู่นาน ก่อนลุแก่โทสะชักปืนยิงไม่ยั้ง เพื่อนบ้านเสียชีวิต ตัวเองถูกญาติพี่น้องคนตายทำร้ายบาดเจ็บ  

เวลา 07.40 น. วันที่ 25 พ.ค. 2566 พ.ต.ท.วัฒนา แก้วเจริญ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 4 ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงหลังใหญ่ ที่ด้านข้างต่อเป็นที่จอดรถพบรอยเลือดจำนวนมากหลายจุด และซองใส่อาวุธปืน และอาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ 1 กระบอก (มีทะเบียน) ส่วนคนเจ็บ 2 รายถูกนำส่งโรงพพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อ นายอนุกูล พรายมี อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณหน้าอก 2 นัด และนายอุดม ทองสุข อายุ 62 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บจากการถูกครอบครัวผู้ตายวิ่งเข้าไปช่วยและแย่งปืน แต่นายอนุกูลทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของลูกเมียและญาติ

จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ลูกสาวคนตาย เล่าว่าที่บ้านประกอบอาชีพทำนา มีธุรกิจรถเกี่ยวข้าวและรับอัดฟางก้อน มีปัญหากับผู้ก่อเหตุอยู่คือการเผาฟาง เผากิ่งไม้ 2 ครั้ง ครั้งแรกนานมาแล้วหลายเดือนพ่อได้เผาฟางข้าว แล้วเปลวไฟได้ไปโฉบต้นไทรเกาหลีของคู่กรณีซึ่งปลูกทำเป็นรั้วรอบสวน ซึ่งอยู่ติดที่นาและที่บ้านของเรา หลังเกิดเหตุพ่อได้รับผิดชอบด้วยการนำปุ๋ยไปใส่และช่วยรดน้ำ จนต้นไม้ฟื้นสภาพ และครั้งที่ 2 ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา พ่อได้นำกิ่งมะพร้าวไปสุมไฟเผากิ่งไม้แห้ง ทำให้ไฟลุกเป็นกองใหญ่ทำให้ต้นไม้เขาไหม้อีก ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้โทรไปหาน้าชายของตนที่เป็นตำรวจ แบบไม่พอใจ แม่ตนก็บอกว่าจะรับผิดชอบให้ จะไปดูแลให้ ซึ่งทุกครั้งทางผู้ก่อเหตุจะโทรไปหาน้าที่เป็นตำรวจ ก็ยังเคยคิดว่าทำไมมีอะไรไม่มาคุยกับที่บ้านจะได้หาทางแก้ไขได้

...

“ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้ขับรถกระบะมาจอดที่บ้านแล้วลงมาโดยไม่ดับเครื่องยนต์และเดินมาชี้หน้าด่า มีปากเสียงกับพ่อ พ่อก็อธิบายเหตุผล แต่ผู้ก่อเหตุซึ่งมือจับอยู่ที่เอวไม่ฟังเหตุผลที่พ่ออธิบาย จนมีการโต้เถียงกัน ผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมายิงใส่พ่อประมาณ 4 นัด พ่อกับแม่ต่างวิ่งหลบ หลังจากยิงถูกพ่อแล้ว ก็หันมาจะยิงแม่ หนูซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้กระโดดวิ่งเข้าไปแย่งปืน แล้วก็ใช้กำปั้นทุบไปหลายครั้ง เขายังหันมามองหน้าหนู จากนั้นมีคนข้างบ้านมารับผู้ก่อเหตุไป ส่วนพ่อซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แม่และญาติได้พาส่งโรงพยาบาล”

ขณะที่ น.ส.เกรียงไกร อินทรักษา 42 ปี หลานสาวคนตาย ซึ่งมาช่วยดูแลกิจการรถอัดฟาง กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนกว่าๆ มีปัญหากันเรื่องเผาฟางแล้วความร้อนของไฟโฉบไปโดนต้นไม้ของเขาเสียหาย แต่ทางน้าตนได้ให้คนงานเอาปุ๋ยมาใส่ แล้วรดน้ำให้จนต้นไม้กลับมาเขียวแล้ว ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ก่อเหตุ ไม่มาพูดตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแรกๆ เพราะน้าได้ฝากคนไปแจ้งเขาแล้ว มายิงเขาทำไม 

ด้าน พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้อายัดตัว นายอุดม ทองสุข ผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เจ้าพระยายมราช รอให้อาการดีขึ้นจะได้นำตัวมาสอบสวนถึงสาเหตุของการก่อเหตุ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายอุดม ทองสุข ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต