ระทึก ตำรวจ 191 ร่วมกับ สน.บางโพงพาง ล้อมบ้านจับพี่ชายเลือด ร้อนบุกยิงน้องสาวได้รับบาดเจ็บ อารมณ์เดือดเลือดพล่านถือปืนวนเวียนอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเจรจาเกลี้ยกล่อมนานชั่วโมงครึ่ง ผู้ก่อเหตุวางปืนยอมให้ตำรวจเข้าจับกุม สอบสวนเจ้าตัวให้การอ้างว่า สาเหตุเพราะเกิดจากความเครียดเรื่องแบ่งมรดกไม่เป็นธรรม เดินทางมาหาน้องทั้งสองคนที่บ้านเพื่อพูดคุย แต่ทะเลาะกันโมโหยิงปืนไปโดนน้องสาวบาดเจ็บ เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฆ่า และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน

พี่ชายหัวร้อนยิงน้องบาดเจ็บเพราะผิดใจเรื่องแบ่งมรดก เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 พ.ค. พ.ต.ท.กริช เพ็ชรสิมาลัย สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุทะเลาะวิวาทยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านเลขที่ 201 ซอยจันทน์ 23/2 ถนนจันทน์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ บก.สปพ.191 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น 8 คูหา พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่นำกำลังปิดล้อมบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.จุฬาลงกรณ์ ทราบชื่อนางอุบลรัตน์ โพธิ์กมลวงศ์ อายุ 69 ปี กระสุนถากที่บริเวณอกข้างขวาได้รับบาดเจ็บไม่มาก ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายศักดา พัฒนะนุกิจ อายุ 76 ปี พี่ชายของนางอุบลรัตน์ ถือปืนลูกโม่ขนาด .38 กวัดแกว่งไปมาอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลว่า นายศักดายิงจนกระสุนหมดลูกโม่จากนั้นใส่กระสุนเพิ่มเข้าไปใหม่ ตำรวจ 191 ร่วมกับฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ สน.บางโพงพาง เจรจาเกลี้ยกล่อมใช้เวลานาน 1.30 ชั่วโมง นายศักดาสงบสติอารมณ์ลง วางอาวุธปืนและยอมให้ควบคุมตัวแต่โดยดี จากนั้นนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง

...

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติกล่าวว่า ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นน้องสาวของผู้ก่อเหตุ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ผบ.ตร.และ ผบช.น.สั่งกำชับให้ควบคุมสถานการณ์ให้ดี เมื่อตำรวจมาถึงผู้ก่อเหตุมีอาการสงบลงไม่ได้ถือปืนเพียงเก็บไว้กับตัว ตำรวจพูดคุยรับฟังปัญหากระทั่งผู้ก่อเหตุคลายความกังวล ประเมินสถานการณ์แล้วไม่จำเป็นต้องเข้าชาร์จบุกจับกุม เนื่องจากไม่มีประชาชนอยู่ในพื้นที่อันตราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมจนกระทั่งผู้ก่อเหตุยอมมอบปืนและให้ตำรวจจับกุม

ผบก.น.5 กล่าวต่อว่า สอบปากคำนายศักดาเบื้องต้นทราบว่า มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว เดินทางมาหาน้องสาวที่บ้าน ขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในบ้าน 3 คน ได้แก่ ผู้บาดเจ็บ น้องชายและหลานชายของนายศักดา ส่วนสาเหตุนายศักดาอ้างว่า เกิดจากความเครียดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดการมรดก ครอบครัวมีญาติพี่น้องรวม 8 คน เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน นายศักดาเป็นพี่คนโตเดินทางมาพูดคุยกับน้องทั้งสองคน ก่อนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันยิงปืนไปโดนน้องสาวบาดเจ็บ นายศักดาเคยทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัทเอกชน พอมีความรู้ในการใช้อาวุธปืน เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฆ่า และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พร้อมทั้งนำส่ง รพ.ตรวจหาสารเสพติด วันที่ 22 พ.ค.นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้