ผู้การเชียงใหม่ สั่งออกราชการทันที ดาบตำรวจ สภ.ไชยปราการ ลักลอบขนฝิ่นดิบ พบเคยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าเหนื่อย เที่ยวละ 75,000 บาท ยันกวดขันมาโดยตลอด แต่ยังมีตำรวจประพฤติชั่ว ประพฤติผิดอยู่
กรณีทางเจ้าหน้าที่ กกล.ผาเมือง ร่วมกับตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัว ด.ต.คมภูศิษฐ์ ธนดาวพิจารณ์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ และนาง กรณ์กาญจน์ ธนดาวพิจารณ์ ภรรยา อายุ 47 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 357 หมู่ 3 ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ พร้อมด้วยของกลางเป็นฝิ่นดิบ จำนวน 50 ก้อน ก้อนละ 1.6 กิโลกรัม น้ำหนักรวมประมาณ 80 กิโลกรัม ซุกซ่อนในท้ายรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 7100 เชียงใหม่ พร้อมด้วยอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก และเครื่องกระสุน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ด่านตรวจแก่งปันเต๊า ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หลังรับจ้างขนฝิ่นจากอำเภอฝาง เที่ยวละ 75,000 บาท ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ แต่มาถูกจับได้ก่อน
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจับกุม ด.ต.คมภูศิษฐ์ ธนดาวพิจารณ์ อายุ 50 ปี ตำรวจ สภ.ไชยปราการ นั้น ได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการทันที นอกจากนั้นแล้ว ยังจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดาบตำรวจนายนี้ด้วย หากพบมีการกระทำผิดข้อหาอื่นอีก ก็จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม
จากการสอบสวน ด.ต.คมภูศิษฐ์ ธนดาวพิจารณ์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบขนฝิ่นจากอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ ก่อนจะมีเครือข่ายมารับต่อไป โดยทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุกับเครือข่ายที่เป็นชนเผ่า โดยไม่ได้มีเพื่อนตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
...
เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) พร้อมกันนี้จะขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการต่อไป
"สำหรับดาบตำรวจผู้ต้องหารายนี้นั้น จากการตรวจสอบพื้นเพนั้นเป็นคนชนเผ่า ไม่ได้มีการเสพยาเสพติด ตามโครงการตำรวจสีขาว ที่ผลการตรวจปัสสาวะไม่พบแต่อย่างใด
แต่เขาเป็นผู้ค้า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางตำรวจภูธรเชียงใหม่ได้มีการกวดขันดูแลมาตลอด ไม่ให้ตำรวจในสังกัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ก็ยังมีตำรวจที่ยังประพฤติชั่ว ประพฤติผิดอยู่ ซึ่งทางตำรวจภูธรเชียงใหม่ก็ต้องดูแลกวดขันกันต่อไป" ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวทิ้งท้าย.