"เดนคุกหื่น" บุกโรงเรียนหวังขืนใจครูผู้ช่วยสาว ขณะเข้าเวรตามลำพัง โชคดีครูสาวฮึดสู้-ถีบหนีเงื้อมมือมาได้ วิ่งขอความช่วยเหลือชาวบ้าน แจ้งตำรวจ-ผู้นำชุมชนคะครุบตัวสำเร็จ ขณะที่เพื่อนครูโพสต์โวยถามหาความปลอดภัย ด้านผู้ก่อเหตุอ้างแอบชอบ-ก่อนก่อเหตุเสพยาบ้าไป 3 เม็ด ตร.เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขัง 11 พ.ค.นี้ 

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6" โพสต์ภาพผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจับกุมตัวขึ้นท้ายรถสายตรวจตำรวจ สภ.น้ำพอง พร้อมระบุข้อความว่า "ความปลอดภัยของคุณครูหาได้จากไหน..ในเมื่อบ้านพักครูบางแห่งบางพื้นที่ คือจุดอันตรายและไม่มีความปลอดภัยเลย...ผู้ใหญ่ในกระทรวงเคยคิดจะแก้ปัญหาอะไรหรือไม่ เรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อวันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2566 เป็นเรื่องจริง ช่วงเวลา 17.30 น. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งย้ำชัดเจนเลยว่า ความปลอดภัยในโรงเรียน (ขนาดเล็ก) เป็นศูนย์ ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป ความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ตรงไหน? น้องครูผู้ช่วยทักหาว่ามีคนแปลกหน้ามาในโรงเรียน แล้วถ่ายรูปคนแปลกหน้าให้เราดู เราจึงบอกน้องไปให้รีบหนีออกจากโรงเรียนไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โรงเรียน เวลาผ่านไปไม่กี่นาที น้องครูผู้ช่วยโทรหาคล้ายกับขอความช่วยเหลือ พี่อยู่ไหน? มันถามน้องว่าอยู่บ้านพักครูคนเดียวหรอ? ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ใกล้โรงเรียนเลย ตอบน้องกลับไปว่าพี่อยู่ในเมืองกำลังจะกลับ ตอนนี้มันอยู่ รีบหนีขึ้นรถ หนีออกมาก่อน ลางสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว"

โพสต์ดังกล่าวระบุต่อว่า "ผ่านไปสักพัก แฟนน้องครูผู้ช่วยโทรหาว่าติดต่อแฟนไม่ได้เลยรบกวนพี่ติดต่อให้หน่อย ทั้งเราและแฟนน้องครูผู้ช่วย พยายามติดต่อน้องครูผู้ช่วย ซึ่งโทรติดแต่ไม่มีใครรับสาย ครูที่โรงเรียนก็โทรมาถาม ไม่นานเลยมีเบอร์แปลกโทรหาถามว่าครูอยู่ไหนรีบมาโรงเรียน และก็มีชาวบ้านโทรเฟซบุ๊คมาหาให้รีบมา ในใจภาวนาอย่าเป็นอะไรเลย พอถึงโรงเรียนบริเวณหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยชาวบ้าน ใจก็เสียไปแล้วระดับนึง พอเห็นหน้าน้องครูผู้ช่วยก็ปล่อยโฮ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก #คนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายขณะที่จะล็อคประตูบ้านพักครูทำร้ายร่างกายน้องครูผู้ช่วยเพื่อหวังจะข่มขืน แต่วิ่งหนีออกมาจากโรงเรียนได้ และมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน กว่าจะจับคนร้ายได้กินเวลาไปรวมชั่วโมง เพราะอะไรนั้นหรอ

...

"แจ้งตำรวจไปแล้ว มีตำรวจอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับได้ต้องรอกำลังเสริม, กำนันมาถึงที่เกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่ต้องโทรประสานชมรม, ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาถึงแล้ว แต่ต้องกลับไปใส่ชุด ถ้าไม่มีชุดไม่สามารถจับคนร้ายได้ (อิหยังวะ)"

โพสต์ดังกล่าวระบุต่อว่า "ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถไปจับคนร้ายได้ ต้องรอตำรวจก่อน ตำรวจพื้นที่สั่งไว้ เดี๋ยวมันเกินกว่าเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นคนร้ายเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง และทำร้ายคนในหมู่บ้าน และถูกปล่อยตัวออกมา คนร้ายยังมีพฤติกรรมลักขโมย จนมาก่อเหตุอีกครั้ง ตำรวจบอกว่าคนเสพยาบ้ามีและบ้ามีเยอะต้องดูแลตัวเองตำรวจจับไม่ไหวหรอก"

"คำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย มันมีเยอะมาก 1.เรามีความปลอดภัยของผู้เรียน แล้วความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ไหน? 2.เลิกมองว่าครูต้องเสียสละ ยิ่งเป็นครูตามชนบทแล้ว ครูคืออาชีพอาชีพนึง 3.โรงเรียนขนาดเล็ก ให้ครูเป็นทุกอย่างไม่ได้ (เราทำทุกอย่างจริงๆ) ก่อนจะยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคืนครูให้ห้องเรียน คืนครูให้ครบชั้นก่อน 4.เรื่องครูอยู่เวร ยังไม่เข้าใจระบบนี้เลย การให้ครูอยู่เวรยาม เกิดเหตุอะไรขึ้นใครจะมารับผิดชอบชีวิตครู มาห่วงแต่ทรัพย์สินทางราชการแต่ไม่ห่วงความปลอดภัยในชีวิตครู เราจะเยียวยายังไง"

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์และได้คุยกับคุณครู ซึ่งอนุญาตให้นำข้อมูลในเฟซบุ๊กไปเผยแพร่ในข่าวได้ แต่เนื่องจากต้องขออนุญาตทางผู้อำนวยการโรงเรียนก่อน จึงไม่สามารถให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลอื่นๆที่นอกเหนือจากที่โพสต์ได้ ซึ่งข้อมูลฝั่งครูทั้งหมดอยู่ในโพสต์ดังกล่าวแล้ว

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง ถึงความคืบหน้าทางคดีทราบว่า หลังรับแจ้งเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งจากทางผู้นำชุมชนว่า ได้ล้อมคนร้ายเอาไว้ หลังเข้ามาก่อเหตุพยายามข่มขืนครูผู้ช่วยภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยมีสายตรวจตำบลบัวเงินและชาวบ้านช่วยกันล้อมไว้อีกแรง เพื่อรอกำลังเสริมจากทาง สภ.น้ำพอง ซึ่งในสายตรวจตำบลและผู้นำชุมชนไปถึง ผู้เสียหายได้ขัดขืนและหลุดออกมา ทางตำรวจและผู้นำชุมชนก็เข้าควบคุมตัวได้ทันควันทันที ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.น้ำพอง และทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบฉี่สีม่วง ทราบชื่อคือ นายอนุวัฒน์ วงษาหาราช อายุ 33 ปี เป็นชาวบ้านหนองแวง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

จากการสอบสวนและสืบค้นประวัติทราบว่า นายอนุวัฒน์ เคยจำคุกหลังก่อเหตุเผาบ้านตัวเองเมื่อ 3 ปีก่อน และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อช่วงต้นปี 2566 และเมื่อกลับมาบ้านก็เห็นครูผู้ช่วยมาสอนเด็กๆที่โรงเรียน ก็เกิดแอบชอบและมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า นายอนุวัฒน์ ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าไป 3 เม็ด แล้วเข้าไปในโรงเรียน ทำทีเข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหายซึ่งเข้าเวรที่โรงเรียน และเมื่อผู้ก่อเหตุทราบว่าผู้เสียหายอยู่คนเดียว ก็พยายามเข้าไปหวังก่อเหตุข่มขืน แต่ถูกผู้เสียหายถีบแล้ววิ่งหลบหนีออกมาได้ โดยมีทางผู้นำชุมชนและสายตรวจตำบลล้อมเอาไว้ พร้อมกับรอกำลังสนับสนุนจากทางตำรวจ สภ.น้ำพอง โดยทางผู้นำชุมชนและสายตรวจตำบลประเมินสถานการณ์แล้วว่า ผู้เสียหายอยู่ในขั้นปลอดภัย จึงทำการล้อมผู้ก่อเหตุเอาไว้ ก่อนจะเข้าควบคุมตัวได้อย่างทันควันพร้อมกับทางตำรวจ สภ.น้ำพอง โดยใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที ในการเข้าระงับเหตุควบคุมตัว หลังรับแจ้งเหตุตามยุทธวิธีของตำรวจ

จากการสอบสวน นายอนุวัฒน์ ได้ยอมรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา "บุกรุกเคหสถาน, กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย, และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอนเฟตามีน (ยาบ้า) ก่อนคุมตัวไว้ในห้องควบคุมผู้ต้องหา เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป