จนท.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จ.ลำพูน สนธิกำลังบุกจับแก๊งลักใช้ไฟฟ้า ต่อกับเหมืองขุดเหรียญบิตคอยน์ในสวนลำไย ยึดอุปกรณ์กว่า 360 เครื่อง มูลค่าความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (เวลา 18.00 น. วันที่ 2 พ.ค. 66) พ.ต.ท.บุญชาย แสนชัชวาล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านธิ จ.ลำพูน ร่วมกับ นายศรชัย ไชยวงศ์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกมิเตอร์และหม้อแปลง สนง.เขต 1 ภาคเหนือเชียงใหม่ ตำรวจ สภ.บ้านธิ จนท.การไฟฟ้าและฝ่ายปกครองอำเภอบ้านธิ เข้าตรวจสอบ และตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เครื่องขุดเงินดิจิทัล หลังลักลอบแอบใช้กระแสไฟฟ้าไม่ผ่านมิเตอร์ เพื่อต่อเข้าเครื่องขุดเงินดิจิทัล ที่โกดังภายในสวนลำไย หลังหมู่บ้านสันต้นค่า หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
เบื้องต้น จนท.ได้อายัดเครื่องขุดพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 360 เครื่อง มูลค่าอุปกรณ์ประมาณ 15 ล้านบาท สอบถาม นายบุญรอด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ผู้ดูแลเบื้องต้น กล่าวอ้างว่า ตนเองเป็นแค่คนรับจ้างเฝ้าสวนเท่านั้น ส่วนเจ้าของสวนเป็นคนกรุงเทพฯ มาซื้อสวนจากชาวบ้านในพื้นที่ไว้เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ตนได้รับจ้างเฝ้าสวนเดือนละ 5,000 บาท ต่อมาเมื่อ 6 เดือนก่อน มีคนมาเช่าและให้เงินตนเองเพิ่มอีกเดือนละ 3,000 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ ตนก็ไม่ทราบชื่อเจ้าของเครื่อง และไม่รู้ว่าข้างในมีเก็บอะไรไว้ เพราะมีหน้าที่แค่ดูแลภายนอกโกดัง ตัดหญ้า และทำความสะอาดด้านนอกเท่านั้น
...
ด้าน นายศรไชย ไชยวงค์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกมิเตอร์และหม้อแปลง สนง.เขต 1 ภาคเหนือเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภายในโกดังมีการดัดแปลงเป็นห้อง คือ ห้องเก็บเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ และเครื่องขุดเหรียญดิจิทัลบิตคอยน์ กว่า 360 เครื่อง และพบผู้ดูแล 1 ราย และพบว่าภายในโกดังดังกล่าว ได้มีการแอบใช้กระแสไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยวัดกระแสไฟฟ้ามีค่ากระแสสูงกว่ามิเตอร์ที่ใช้ และเป็นการต่อตรงใช้ไฟฟ้าโดยไม่ผ่านเครื่องวัดของการไฟฟ้า และไม่ได้รับอนุญาตจากการไฟฟ้า ทำให้การไฟฟ้าได้รับความเสียหาย
ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกมิเตอร์และหม้อแปลง สนง.เขต 1 ภาคเหนือเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นคาดว่าอุปกรณ์ที่ตรวจยึดไว้ มีมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท ส่วนมูลค่าความเสียหายของการไฟฟ้าที่ถูกขโมยใช้ไฟฟ้า ประมาณกว่า 13 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อหาเจ้าของและเครือข่าย เพื่อจะได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.