สมาคมทนายความ ร่อนแถลงการณ์ ส.ว. ต้องเคารพฉันทามติประชาชนโหวตนายกฯ จากพรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุด เปิดทริก รธน.หากยังตั้งไม่ได้ "ประยุทธ์" นั่งรักษาการยาว ชี้ควรยกเว้นข้อบังคับตามตัวอักษร ให้ ส.ส.ขานชื่อก่อน
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ความว่า ประเทศไทยยังคงสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติทางการเมืองอีกครั้ง อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ถูกออกแบบโดยเผด็จการที่มีเจตนาต้องการสืบทอดอำนาจ ได้เขียนกำหนดไว้ในมาตรา 272 ให้ ส.ว. มีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งผลการลงมติของ ส.ว. จะนำไปสู่วิกฤติได้ ดังนี้
(1) กรณี ส.ว. งดออกเสียงให้กับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองเสียงข้างมาก แต่รวบรวมเสียงได้ไม่ถึง 376 เสียง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อได้รับเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้ง 2 สภา จึงเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนไม่ได้ ผลที่จะเกิดขึ้นคือรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จะเป็นรัฐบาลรักษาการต่อไป
(2) กรณี ส.ว. ออกเสียงให้กับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมืองเสียงข้างน้อย ซึ่งแม้จะทำให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่อาจจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะพรรคเสียงข้างมากไม่เอาด้วย ผลที่จะเกิดขึ้นคือรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จะเป็นรัฐบาลรักษาการต่อไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลไว้
ผลลัพธ์จากการลงมติของ ส.ว. ทั้งสองกรณีข้างต้น จะนำวิกฤติการเมืองมาสู่ประเทศชาติ
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ ส.ว. ได้เคารพในเจตนารมณ์และฉันทามติของประชาชน ด้วยการออกเสียงลงมติให้กับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากพรรคการเมืองที่รวบรวมเสียงข้างมากจาก ส.ส.
...
โดยในการลงมติรัฐสภาควรยกเว้นข้อบังคับที่การออกเสียง จะต้องขานชื่อตามลำดับตัวอักษรผสมกันทั้ง ส.ว. และ ส.ส. โดยขอให้ขานชื่อจาก ส.ส. ให้ครบ 500 ชื่อก่อน เพื่อให้ทราบว่าผู้นั้นได้รับการเสนอชื่อด้วยเสียงข้างมาก จากนั้นจึงค่อยให้ ส.ว. ลงมติต่อจาก ส.ส. ประชาชนจะได้รู้เห็นตัวตนที่แท้จริงว่า ในการออกเสียงของบรรดา ส.ว. เหล่านั้น ได้เคารพเจตนารมณ์ของประชาชนที่จ่ายเงินเดือนให้ ส.ว. หรือเพียงแค่เคารพกลุ่มผู้มีอำนาจเก่าที่แต่งตั้งตนให้เป็น ส.ว. เท่านั้น.