12 วันผ่าน ชุดปฏิบัติการพิเศษ ขึ้นเขาเข้าถ้ำ ยังไร้วี่แวว "ด.ต.อรรถพร วิเชียร" ผู้การสุราษฎร์ มั่นใจยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ยันงานนี้ไม่มีซูเอี๋ย ลั่นหากมีจิตสำนึกและรักในอาชีพตำรวจ ต้องรีบเข้ามอบตัว

ความคืบหน้ากรณี ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 4 คนใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนลูกซองยิงถล่มบ้านพักในสวนปาล์มเลขที่ 91 หมู่ที่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม และมีการยิงต่อสู้กันมีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ มีนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางงอน อ.พุนพิน นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือ แตง อายุ 49 ปี ภรรยา นายพรศักดิ์ เพชรชู หรือผู้ใหญ่กรอก อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน ญาตินางนิลทิพย์ และนายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปี พี่ชาย ด.ต.อรรถพร เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายน

ต่อมาพบผู้เสียชีวิตรายที่ 5 นายอรรพล หรือบาส วิเชียร อายุ 25 ปี ลูกชาย ด.ต.อรรถพร กับภรรยาคนแรก ถูก ด.ต.อรรถพร ยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. และพบศพรายที่ 6 น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม อายุ 34 ปี ภรรยาคนที่ 2 ถูก ด.ต.อรรถพร ยิงกรอกปากด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.ในห้องพักลีลาวดีรีสอร์ต ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม และจับกุมนายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม 1 ในผู้ต้องหาได้ในพื้นที่ อ.ทับปุด จ.พังงา สอบสวนให้การรับสารภาพและนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพส่งฝากขัง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

...

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 เมษายน ที่สภ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมประชุมกับคณะทำงานติดตามคดี ในขณะที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ขึ้นค้นหาด.ต.อรรถพร วิเชียร ผู้ต้องหา ภายในบริเวณวัดสถิตคีรีรมย์ (วัดเขาราหู) ในพื้นที่ อ.คีรีรัฐนิคม ซึ่งต้องเดินขึ้นเขาเพื่อไปค้นหาภายในถ้ำ แต่ยังไม่พบบุคคลตามหมายจับ

ด้าน พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในทางสำนวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นในเรื่องของพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนการติดตามผู้ต้องหานั้น ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด ซึ่งชุดสืบสวนติดตามคนร้ายที่มี พล.ต.ต.นภัณวุฒิน์ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 เป็นหัวหน้าชุด ได้ดำเนินการสืบสวนตามขั้นตอน ซึ่งเรายังมั่นใจว่าคนร้ายยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.คีรีรัตน์ และบ้านตาขุน

...

ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวยอมรับว่าการทำงานล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา ซึ่งคนร้ายมีความชำนาญในพื้นที่เป็นพิเศษ และเชื่อว่ายังมีบุคคลซึ่งเป็นญาติหรือคนรู้จักให้การช่วยเหลือ แต่เชื่อว่าจะไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งในส่วนนี้หากผู้ต้องหายังคงมีจิตสำนึกและรักในอาชีพตำรวจจะต้องรีบเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย