รวบแล้วโจรแสบแฝงตัวเป็นลูกค้า ฉกทองมูลค่า 2 แสน ร้านทองออโรร่าในห้างดังบางพลี อ้างเอาเงินไปใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ และเพื่อนยืมเงินไปแล้วไม่คืน เลยไม่มีเงินส่งค่างวดรถให้แม่

จากกรณีที่มีคนร้ายชายรายหนึ่ง ทำทีเป็นลูกค้าเลือกซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท และน้ำหนัก 50 สตางค์ กับพนักงานภายในร้านทองออโรร่า ภายในห้างเยส บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะออกอุบายขอกระจกจากพนักงาน แล้วอาศัยจังหวะที่พนักงานหันไปหยิบกระจก ก่อเหตุชิงทองรวมทั้งหมด 4 เส้น วิ่งหลบหนีมาขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่ข้างห้างดังกล่าว หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อบ่ายโมงของวันที่ 17 เมษายน 66 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ภายใน 3 วัน โดยตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามแกะรอยจากภาพวงจรปิด จนทราบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายรายนี้ และสืบทราบตัวผู้ต้องหารายนี้แล้ว จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดขออนุมัติหมายจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ และศาลอนุมัติหมายจับ ที่ 257/2566 ลงวันที่ 19 เมษายน 66 ให้จับกุมตัว นายวสันต์ นวลศิริ อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม ขณะที่ผู้ก่อเหตุรายนี้หลบหนีกลับบ้านเกิดในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์

...

พ.ต.ท.ปราการ จงประสิทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางเสาธง พร้อมด้วย สารวัตรสืบและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง ติดตามตัว นายวสันต์ ไปที่บ้านพักในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมประสานฝ่ายสืบสวน สภ.สตึก เฝ้าติดตามตัว จนกระทั่งช่วงสายที่ผ่านมา พบรถกระบะต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นของ นายวสันต์ จึงเข้าตรวจสอบ พบตัว นายวสันต์ เป็นคนขับรถคันดังกล่าว จึงแสดงหมายจับและตรวจค้นภายในรถ พบของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ ที่ยังมีป้ายชื่อของห้างทองออโรร่า จำนวน 3 เส้น น้ำหนัก 2 บาท 2 เส้น และสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 50 สตางค์ 1 เส้น ซึ่งทั้งหมดเป็นลายตรงกับที่ร้านทองระบุไว้

จากการสอบถาม นายวสันต์ ผู้ต้องหายอมรับว่า ลงมือก่อเหตุจริง หลังก่อเหตุนำทองไปขายที่ร้านทองแถวลาดหวาย บางบ่อ จำนวน 1 เส้น ได้เงินมา 61,000 บาท ส่วนทองที่เหลือ ยังไม่ทันนำไปขาย เงินที่ได้มาใช้จ่ายไปแล้ว เหลือเพียง 18,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่า ลงมือก่อเหตุ เพราะเอาเงินใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ และถูกเพื่อนยืมเงินไปก่อนหน้านี้ ไม่มีเงินส่งค่างวดรถให้มารดา และจำเป็นต้องพาลูกกลับบ้านเกิด จึงตัดสินใจวางแผนลงมือก่อเหตุ ตำรวจจึงคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมด มาทำการบันทึกจับกุมตัวที่ สภ.สตึก และอยู่ระหว่างคุมตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.บางเสาธง โดยในวันพรุ่งนี้จะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ฝากขอความร่วมมือร้านทอง โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นร้านทองที่ไม่มีประตูหรือเหล็กกั้น จึงง่ายต่อการก่อเหตุของคนร้าย ขอความร่วมมืองดนำทองจำนวนมากมาให้คนร้ายเลือก เหมือนเช่นร้านทองแห่งนี้ จนถูกคนร้ายลงมือก่อเหตุ.