แก๊งวัยรุ่นคู่อริย่านฝั่งธน 2 กลุ่ม ข้ามฝั่งมาเที่ยวงานสงกรานต์อาร์ซีเอ ก่อเหตุวิวาทเดือดยิงสนั่นกลางงานคอนเสิร์ต เหยื่อถูกคมกระสุนเจ็บระนาว 6 คน และบาดเจ็บจากการหกล้มระหว่างหนีตายอีก 2 คน ตำรวจรวบแก๊งผู้ก่อเหตุทันควัน 2 คนพร้อมปืน 2 กระบอกขึ้นลำพร้อมลั่นไก รับซุกซ่อนปืนที่หว่างขาเข้างาน แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลั่นกระสุน ตำรวจไม่เชื่อรอตรวจหัวกระสุนจากร่างเหยื่อและปลอกกระสุนที่ตกเกลื่อนที่เกิดเหตุ เบื้องต้นระบุตัวคู่กรณีได้หมดแล้วเกือบ 20 คน ส่งชุดสืบสวนไล่ล่าลากคอมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ดวลปืนสนั่นกลางงานคอนเสิร์ตในอาร์ซีเอเจ็บระนาว เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 17 เม.ย. ร.ต.อ.เพลิง รุณนากัน รอง สว. (สอบสวน) สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทใช้ปืนยิงกันมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณหน้าร้านออนิกซ์ สถานบันเทิงภายในย่านอาร์ซีเอ ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. รายงานผู้บังคับ บัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่เกิดเหตุประกอบด้วย พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.จรินทร์ ลำลึก ผกก.สน.มักกะสัน ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจสายตรวจ สน.มักกะสัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณเวทีคอนเสิร์ตอควาเฟสต์ (aquafest) บนถนนอาร์ซีเอหน้าร้านออนิกซ์ นักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ในสภาพแตกตื่น ถังน้ำ แก้วน้ำ ขวดสุรา จานช้อนข้าวของกระจายเกลื่อนพื้น ปลอกกระสุนปืนขนาดต่างๆตกอยู่ 7 ปลอก ตำรวจกันพื้นที่ไว้เก็บหลักฐาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิง 6 คน ประกอบด้วย 1.นายณัฐนนท์ นนทสุด อายุ 25 ปี ถูกยิงที่ขา 1 นัด รักษาตัวอยู่ รพ.เพชรเวช 2.นายฐิติพล ศุภประเสริฐ อายุ 28 ปี ถูกยิงที่เท้า 1 นัด รักษาตัว รพ.เพชรเวช 3.น.ส.จิราพร พูลสุข อายุ 26 ปี ถูกยิงที่ข้อมือซ้ายรักษาตัวอยู่ รพ.ปิยะเวช 4.นายโอบนิธิ พึ่งเคหา อายุ 26 ปี ถูกยิงที่เท้า 3 นัด รักษาตัวอยู่ รพ.กรุงเทพ 5.นายธนัทเดช ไม่ทราบนามสกุล อายุ 37 ปี ถูกยิงที่ขา 1 นัด รักษาตัวอยู่ รพ.คามิลเลี่ยน และ 6.นายธนสิทธิ์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 38 ปี ถูกยิงเฉี่ยวใต้คาง 1 นัด รักษาตัวอยู่ รพ.คามิลเลี่ยน นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งหนีตายหกล้มแขนขาถลอกอีก 2 คน รวมผู้บาดเจ็บทั้งหมด 8 คน
...
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ สน.มักกะสัน ที่เฝ้าระวังอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันควัน 2 คน ประกอบด้วย นายณัฐนนท์ หรือหวาน เกิดพืช อายุ 41 ปี พร้อมปืนบาเร็ตต้า .380 มม. เครื่องกระสุน 5 นัด และนายณัทพล หรืออาร์ม โสป่าสัก อายุ 19 ปี พร้อมปืนซิกซาวเออร์ขนาด 9 มม.เครื่องกระสุน 5 นัด ควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.มักกะสัน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันของกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ริมถนนหน้างานคอนเสิร์ตจนเกิดชกต่อยกัน บานปลายมีคนใช้ปืนยิงลงพื้นหลายนัด ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย
ที่ สน.มักกะสัน เวลา 08.30 น. หลังสอบสวนผู้ต้องหานายณัฐนนท์ หรือหวาน เกิดพืช อายุ 41 ปี และนายณัทพล หรืออาร์ม โสป่าสัก อายุ 19 ปีต่อเนื่องตลอดคืน พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ข้อหามีและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ ถูกควบคุมตัวในห้องขังชั้น 2 มีญาติและเพื่อนเดินทางมาเยี่ยมแต่ปิดปากเงียบไม่ให้สัมภาษณ์
พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐนนท์ และนายณัทพล ทั้งสองมีเรื่องกับกลุ่มคู่อริก่อเหตุชกต่อยไล่ยิงกันตั้งแต่บริเวณริมถนนใกล้ร้านออนิกซ์ มีนักเที่ยวกำลังดื่มสังสรรค์กันอยู่จำนวนมาก ทำให้มีผู้ถูกลูกหลงจากกระสุนรวม 6 คน นายณัฐนนท์พกปืนบาเร็ตต้าส่วนนายณัทพลพกปืนซิกซาวเออร์ หลังก่อเหตุจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนนำตัวมาสอบสวนถึงช่วงเช้ามืด ผู้ต้องหายังให้การวกวนเพราะเมาหนัก ส่วนพยานหลักฐานพบปลอกกระสุน 7 ปลอกและหัวกระสุนฝังที่ขาผู้บาดเจ็บ 1 คน อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจอาวุธปืนและวิถีกระสุนว่าตรงกันหรือไม่ พยานหลักฐานค่อนข้างครบถ้วน ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเบื้องต้นพบประวัตินายณัฐนนท์เคยถูกจับคดีค้ายาเสพติดพื้นที่ สน.ดินแดง แต่ศาลยกฟ้อง ส่วนนายณัทพลเคยถูกจับคดีลักทรัพย์พื้นที่ จ.ชลบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 ดูแลงานสืบสวนและสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม
ต่อมาเวลา 11.40 น. พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 กล่าวว่า ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุและคู่อริรวมกว่า 10 คน ล้วนเป็นวัยรุ่นย่านธนบุรี จับกุมในที่เกิดเหตุ 2 คนพร้อมปืน ที่เหลือทราบตัวทั้ง 2 กลุ่มแล้วอยู่ระหว่างตามจับกุม คาดว่าภายในวันนี้จะได้ตัวทั้งหมด ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การว่าบังเอิญมาเจอกลุ่มคู่อริที่งาน จากนั้นมีการทักถามชื่อ เมื่อมั่นใจว่าเป็นคู่อริที่เคยเขม่นกันมาก่อนจึงเริ่มชกต่อย ก่อนฝ่ายผู้ต้องหาชักปืนยิงลงพื้นข่มขู่หลายนัดแล้ววิ่งหนีไปหลังร้าน ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธเป็นคนยิง แต่เพื่อนอีก 2 คนคือนายวุฒิและนายไวท์ ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนยิง แล้วหลบหนีไป ส่วนปมขัดแย้งยังไม่ทราบ จู่ๆก็ประกาศศักดายิงปืนลงพื้นทำให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว
“หลังเกิดเหตุช่วงตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ได้ ตรวจสอบพบปืนใส่กระสุนพร้อมเหน็บอยู่ที่เอวด้านหน้าเสื้อคลุมทับทั้ง 2 คน ทั้งพบกระสุนยังค้างอยู่ในรังเพลิง ส่วนประเด็นผู้ก่อเหตุพกปืนเข้าไปได้ อยู่ระหว่างติดต่อเจ้าของร้านและผู้จัดงานมาสอบปากคำ โทรศัพท์ไปแล้วหลายครั้งยังไม่มีใครรับสาย คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะซุกซ่อนนำปืนเข้าไปในช่องทางที่ไม่มีการตรวจค้น ตรวจสอบปืนทั้ง 2 กระบอกพบว่า เป็นปืนมีทะเบียน ชื่อผู้ครอบครองไม่ตรงกับผู้ก่อเหตุ กำลังประสานเจ้าของปืนมาให้ปากคำ ยืนยันว่ามีผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพียง 6 คน ทั้งหมดยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บจากการวิ่งหนีหกล้ม 2 คน” รอง ผบก.น.1 กล่าว
บ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีและเร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนี ก่อนประชุมกล่าวประเด็นลักลอบนำอาวุธปืนเข้าไปในงานว่าผู้ต้องหาให้การว่าซุกไว้ที่หว่างขาในกางเกงใน เนื่องจากการตรวจค้นจะตบเฉพาะที่เอว เชื่อว่าอาวุธมีมากกว่านี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กำชับให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ขณะนี้สั่งให้ชุดสืบสวนติดตามตัว ใช้กำลังทั้งสืบ บก.น.1 และ บก.สส.บช.น.ร่วมกันติดตามหลายจุดในหลายจังหวัด เก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในสำนวนแล้ว ต้องทำให้ละเอียดเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหลุดรอดได้ สอบถามผู้บาดเจ็บมีคู่กรณีบางส่วน
...
หลังประชุมกว่า 2 ชม. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีกล้องวงจรปิดที่จับภาพตรงจุดเกิดเหตุแล้ว แบ่งกลุ่มคู่กรณีเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 10 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 9 คน ผู้หญิง 1 คน กลุ่มที่สอง 9 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 5 คน และผู้หญิง 4 คน ขณะนี้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว 2 ปาก ฐานะผู้เสียหาย ตรวจสอบสถานบันเทิงออนิกซ์ขออนุญาตเปิดสถานบริการตามข้อ 3 (1) อยู่ในเขตโซนนิ่ง ปิดให้บริการเวลา 02.00 น. ส่วนการเอาผิดสถานบันเทิง จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหน้าร้านต้องตรวจสอบว่าควบรวมกับทางร้านหรือไม่ เพราะทราบว่าอาหารมีพนักงานของร้านออนิกซ์เป็นคนนำมาเสิร์ฟ การเก็บเงินก็เป็นของร้านออนิกซ์ ต้องสอบให้ครบทุกมิติ
“ส่วนที่ผู้ต้องหาติดต่อว่าจะขอเข้ามอบตัวเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวรู้ชื่อคู่อริทั้ง 2 กลุ่มแล้ว ใครทำหน้าที่อะไร ใครมาจองโต๊ะ ใครจ่ายเงิน สามารถระบุได้หมด ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.มักกะสัน ไปเอาใบเสร็จกับทางร้านมาประกอบสำนวน ขณะนี้ยังไม่มีการให้ประกันตัวผู้ต้องหาเพราะอยู่ระหว่างการสอบสวน จากภาพคลิปวงจรปิดพบเห็นประชาชนที่ไลฟ์สดและถ่ายรูปเซลฟี่ด้วย ขอให้ประชาชนที่มีคลิปภาพจุดเกิดเหตุส่งมอบให้เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นข้อมูลจะเก็บไว้เป็นความลับ หากมีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมขอให้มาแสดงตัวเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านเองในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย” ผบก.น.1 กล่าว