ลุงโทนี่ อินฟลูเอนเซอร์ ชื่อดัง เข้าพบตำรวจไซเบอร์ รับทราบข้อหา กรณีชักชวนสมัครเว็บพนันออนไลน์ แจกเงิน 500 บาทให้กับเยาวชนวัย 15 ปี เจ้าตัวสารภาพทำจริงเพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน ต้องแบกภาระค่าใช้จ่าย มีคนเข้ามาของานทำเยอะ หลังจากนี้ไม่กล้าทำอีกแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ พรมไพร รอง ผกก.2 บก.สอท.3 พ.ต.ท.มิตร คนชุม รอง ผกก.สอบสวน กก.1 บก.สอท.4 เชิญตัวนายเจริญศักดิ์ โพธิ์ศรีชัย หรือลุงโทนี่ อายุ 45 ปี อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง มาสอบปากคำ หลังพบพฤติกรรมชักชวนสมัครเว็บพนันออนไลน์ และได้แจกเงินให้แก่เยาวชนที่เข้าชมไลฟ์ผ่านทางแพลตฟอร์ม TikTok โดยมีการแจกเงินจำนวน 500 บาทให้กับเด็กชายวัย 15 ปีชาว จ.ปทุมธานี
พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปรากฏจากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อเพจ "เหยื่อ" ได้โพสต์คลิปวีดีโอลุงโทนี่อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้ไลฟ์สดผ่านแพลทฟอร์ม ติ๊กต่อก มีเนื้อหาชักชวนให้สมัครเข้าเล่นพนันออนไลน์ อธิบายวิธีการฝากเงินและได้ผลตอบแทนเป็นเงินที่มากกว่าจำนวนที่ฝาก ยกตัวอย่างเช่น ฝาก 50 บาท ได้เงินกลับคืนมา 700 บาท และโฆษณาชักชวนให้สมัครไลน์แอดเพื่อสมัครเข้าเล่นพนันออนไลน์ แล้วนำเงินไปฝากและดำเนินการตามคำแนะนำตามขั้นตอนจะได้รับผลประโยน์เป็นเงินกลับคืนมา และบางช่วงบางตอนของคลิปวิดีโอดังกล่าว ชายคนดังกล่าวได้มีการเรียกชื่อชายวัยรุ่นอีกคนว่า "บอส" หรือนายธีรภัทร จากนั้นได้แนะนำให้นายบอส สมัครสมาชิกเข้าไลน์แอด ก่อนที่ลุงโทนี่ได้โอนเงินจำนวน 500 บาท เข้าบัญชีธนาคารของนายบอสเป็นค่าตอบแทน
...
ต่อมาชุดสืบสวนทราบว่า นายบอสที่ลุงโทนี่กล่าวถึงในคลิบวิดีโอ คือ นายธีรภัทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเยาวชน ชาว จ.ปทุมธานี จึงรวบรวมหลักฐานก่อนขออำนาจศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ออกหมายค้นที่ 60-62/2566 ลงวันที่ 13 มี.ค. 66 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 138, 144, 145 หมู่ 14 ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเจริญศักดิ์ โพธิ์ศรีชัย อายุ 45 ปี หรือลุงโทนี่ เพื่อเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นตรวจค้นยึดโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเอกสารหลักฐานหลายรายการ เพื่อทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบข้อความบทสนทนาผ่านทางโปรแกรม Messenger ระหว่างลุงโทนี่กับบุคคลหนึ่ง ในห้วงวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาใจความเป็นการที่บุคคลหนึ่งได้ แชตเข้ามายังเพจของลุงโทนี่ ซึ่งทางแอดมินเพจได้เป็นผู้ตอบ ซึ่งตอนแรกทางแอดมินได้สอบถามว่า ต้องการสั่งสินค้าใด แต่ปรากฏว่าปลายทางได้ตอบมาว่า "โปรโมต คิดราคายังไง" ก่อนที่ทางแอดมินได้สอบถามว่างานอะไร ปลายทางได้ระบุชัดว่าไลฟ์เว็บพนัน ก่อนที่แอดมินจะขอไอดีไลน์ให้ลุงโทนี่แอดไป
นายเจริญศักดิ์ เปิดเผยว่า ยอมรับว่าตนได้กระทำผิดจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้รับการติดต่อจากแอคเคาท์อวตารหลายแอคเคาท์ จ้างวานให้ชักชวนคนเข้ามาเล่นพนันออนไลน์ โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป ตนจึงรับงานนี้และมีการไลฟ์สดผ่านแอปพลิเคชั่น TikTok โดยให้ผู้ที่สนใจแอดไลน์ และกดลิงก์เว็บไซต์พนันออนไลน์ หลังจากนั้นจะมีการให้เติมเงินและเข้าไปเล่นพนัน ซึ่งมีการโฆษณาเชื้อเชิญว่าเมื่อเติมเงินเข้าระบบจะได้เงินมากกว่าจำนวนจริงที่เติมเข้าไป นอกจากนี้ยังมีการโอนเงินให้กับเด็กคนหนึ่งกลางไลฟ์สด ภายหลังจากที่เด็กคนดังกล่าวได้สมัครสมาชิก เพื่อเพิ่มความหน้าสนใจให้กับไลฟ์สดในครั้งนั้น
...
ซึ่งยืนยันว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่หน้าม้า ไม่รู้จักกันมาก่อน และพึ่งมารู้หลังไลฟ์สดว่าบุคคลที่ตนโอนเงินเข้าไปให้เป็นเยาวชน หลังจากที่รู้เรื่องตนรู้สึกไม่ดี และรู้สึกผิดมาก เพราะเด็กคนนั้นรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของคนเอง
ส่วนสาเหตุที่ต้องรับจ้างชักชวนเล่นพนันออนไลน์ ตนยอมรับว่าเดือดร้อนเรื่องเงิน เนื่องจากมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ ของานทำเยอะ ไหนจะสัตว์ในฟาร์ม ตนต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายทั้งคนงาน และอาหารสัตว์ ซึ่งในแต่ละเดือนมียอดเงินค่อนข้างสูง จึงทำให้ตนหลงผิดกระทำการดังกล่าว ซึ่งการไลฟ์สดครั้งนั้น เป็นครั้งแรก และครั้งเดียวที่เป็นการไลฟ์สดเชิญชวนเล่นการพนันออนไลน์ หลังจากนี้ตนไม่กล้าทำอีก หลังจากทราบเรื่องตนก็รีบเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้หลบหนีไปไหน
ทั้งนี้ตนอยากขอโทษ และขอโอกาสจากสังคม และผู้ที่ติดตามตนเอง ตนจะไม่ทำแบบนี้อีก จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานและอาชีพสุจริตต่อไป
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (พรบ.การพนัน พ.ศ.2478 ม.12) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด (พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ม.26(3),78) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท 1 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
...