ตัวแทน ก.ล.ต. โร่พบ รอง ผบช.สอบสวนกลาง แจ้งเอาผิด “อภิมุข” กับพวกรวม 18 ราย กรณีปั่นหุ้นมอร์ หลังประสานให้มาแจ้งความเพิ่ม เพราะพบว่ามีการสร้างราคาหุ้นที่เป็นเท็จ โดยอาจจะรวม 2 คดีเข้าด้วยกัน

จากกรณีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE หลังพบความผิดปกติการซื้อขายหุ้น ก่อนมีการประสานข้อมูลร่วมกับทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ให้ช่วยตรวจสอบความผิดปกติ เนื่องจากเชื่อว่า ธุรกรรมการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ MORE เป็นจำนวนมากในราคาสูงผิดปกติ และอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้น อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงผู้ลงทุนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก

ความคืบหน้าคดีล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ก.พ.2566  ที่ อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เข้าพบ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. เพื่อแจ้งเอาผิด นายอภิมุข บำรุงวงศ์ และพวกรวม 18 ราย ได้แก่ 

...

(1) นายอภิมุข บำรุงวงศ์ (2) นายเอกภัทร พรประภา (3) นายอธิภัทร พรประภา (4) นางอรพินธุ์ พรประภา (5) นายประยูร อัสสกาญจน์ (6) นายวสันต์ จาวลา (7) Mr. Shubhodeep Prasanta Das (8) บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด (9) บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด (10) นายสมนึก กยาวัฒนกิจ (11) นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ (12) นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา (13) นางสาวอัยลดา ชินวัฒน์ (14) นางสาวสุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์ (15) นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล (16) นายมั่นคง เสถียรถิระกุล (17) นายโสภณ วราพร และ (18) นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ

เกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ พ.ศ. 2535 ม.244/3, 244/5 และ 244/6  (อัตราโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน ห้าปีหรือปรับตั้งแต่ 1 ล้านบาทถึง 5 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

น.ส.รื่นวดี กล่าวว่า สำหรับการมาในวันนี้ เพื่อมาแจ้งความเอาผิดนายอภิมุข และพวกรวม 18 รายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น MORE ในลักษณะผิดปกติ เพิ่มในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) หลังพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการสร้างราคาที่เป็นเท็จ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทาง ก.ล.ต.เองไม่ได้นิ่งนอนใจมีการประสานข้อมูลกับตำรวจเรื่อยมา ในส่วนนี้ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาช่วยตรวจสอบ ทำคดีจนคดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร

ด้าน พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นคดีที่ก่อนหน้านี้ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจาก 11 บริษัทหลักทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีหุ้น MORE เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ตำรวจ บก.ปอศ.เพื่อตรวจสอบเอาผิด นายอภิมุข  และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น MORE ในลักษณะผิดปกติ ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” โดยแจ้งว่าหุ้น MORE มีการซื้อขายผิดปกติ มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7,142 ล้านบาท ในจำนวนนั้นสร้างความเสียหายให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ หลายรายรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4,500 ล้านบาท สำหรับในส่วนคดีนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. ได้ดำเนินการสอบปากคำผู้กล่าวหา จำนวน 10 ปาก และ พยานที่เกี่ยวข้องอีก 34 ปาก ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเร่งรัดนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ระหว่างที่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีแรกอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ยังได้พบพยานหลักฐานว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ยังมีการกระทำที่ส่อไปในทางสร้างราคาหุ้นที่เป็นเท็จ จึงประสานทาง ก.ล.ต. ให้เข้ามาแจ้งเอาผิดเพิ่มเติมอีกคดี เนื่องจากคดีทั้ง 2 คดีมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกัน ดังนั้นอาจมีการพิจารณาเสนอให้มีการนำคดีทั้ง 2 มารวมเป็นคดีเดียวกัน.