ผู้การ ปปป.เผย พนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนคดี อธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับส่วย ส่ง ป.ป.ช.ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ทันกำหนดภายใน 30 วัน มั่นใจพยานหลักฐานที่มีเอาผิดได้แน่

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 ม.ค. 66 ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เผยความคืบหน้าคดีที่ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัดว่า พนักงานสอบสวนเตรียมส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อให้ทันกำหนดภายใน 30 วัน หลังจาก ป.ป.ช. รับเรื่องร้องเรียน คือวันที่ 26 มกราคม เมื่อแน่ชัดวันส่งสำนวนแล้ว จะนัดนายรัชฎาไปที่ ป.ป.ช.ต่อไป

ผบก.ปปป. กล่าวต่อว่า ส่วนการสอบปากคำ ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนั้น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่มที่รวบรวมเงินจำนวน 98,000 บาท ให้กับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เพื่อนำเงินไปให้ในรัชฎา กลุ่มนี้มีพยาน 17 คน ประกอบด้วย เจ้าของเงิน 13 คน, คนรวบรวมเงิน 3 คน และนายชัยวัฒน์อีก 1 คน โดยทั้งหมดให้การสอดคล้องกัน ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินวิ่งเต้นโยกย้ายก่อนหน้านี้ มี 5 คน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับ กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มหัวหน้างานที่มีรายชื่อและตำแหน่งปรากฏอยู่บนหน้าซองใส่เงิน ที่ตรวจค้นพบในห้องทำงานของนายรัชฎา มี 14 ซอง ที่สามารถยืนยันตัวบุคคลจากซองเงิน 21 ซอง แต่ใน 14 ซอง ที่สามารถระบุตัวตนได้ และมี 1 ซอง ที่ไม่มีเงินอยู่โดยเจ้าตัวให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้มี 4 คน ให้การเป็นประโยชน์ ส่วนที่เหลืออ้างว่าเป็นเงินค่าสั่งทำพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 จำลอง เพื่อนำเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือข้าราชการในสังกัด, เงินที่ใช้ในกองทุนช่วยเหลือสัตว์ป่า และเป็นเงินที่ใช้ด้านอื่นๆ

...

ผบก.ปปป. ยังกล่าวอีกว่า มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่จะสามารถเอาผิดนายรัชฎาได้ แม้ว่าจะมีพยานหลายคนที่ปฏิเสธว่าไม่ได้จ่ายเงินวิ่งเต้นตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วจะต้องถูก ป.ป.ช.ไต่สวนอยู่ดี เชื่อว่าเมื่อถึงกระบวนการนั้นจะมีพยานกลับคำให้การอีกหลายคน เพราะไม่มีใครอยากตกเป็นผู้ต้องหา เพราะหากให้การเท็จกับ ป.ป.ช.จะมีความผิดร่วมไปด้วย.