หลังเกิดเหตุระเบิด “คาร์บอมบ์” แฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พ.ย. เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และครอบครัวตำรวจ บาดเจ็บ 18 ราย แฟลตและบ้านพักทางราชการได้รับความเสียหาย 70 ห้อง และทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหายจำนวนมาก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ความสำคัญกับการเร่งรัดติดตามคดี ดูแลขวัญกำลังใจตำรวจ ลงพื้นที่ดูที่เกิดเหตุ ตรวจเยี่ยมและสั่งการเร่งจัดสร้างที่พักชั่วคราว พร้อมอนุมัติงบซ่อมแซมแฟลตที่พักตำรวจ

กว่า 1 เดือน ผบ.ตร.ได้ประชุมเร่งรัดติดตามคดีและดูแลกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ “คาร์บอมบ์” แฟลตตำรวจ สภ.นราธิวาส ชุดสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุและเปิดปฏิบัติการบุกเข้าจับกุมได้ผู้ร่วมก่อเหตุ 2 ราย และขยายผลออกหมายจับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 7 ราย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ลงพื้นที่พร้อม พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส, พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รอง ผบช.ตชด. พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก. ภ.จ.สงขลา, น.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นย.ทร. สอบสวน 2 ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจ นราธิวาส และติดตามความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟพื้นที่จ.สงขลา

...

ตำรวจได้หลักฐานสำคัญจากกล้องวงจรปิด คนร้ายขับรถยนต์กระบะคันประกอบระเบิดหรือ “คาร์บอมบ์” มาจอดภายในแฟลตที่พักตำรวจและลงจากรถไปขึ้นรถจักรยานยนต์คนร้ายที่รอรับด้านหน้าแล้วหลบหนีไป

สืบจากทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน กค 6961 ตรัง ที่ถูกโอนขายลอยเป็นทอดๆ ตั้งแต่ปี 2564 และ น.ส.ไซนะเป็นผู้ครอบครองคนสุดท้ายก่อนประกาศขายทางเฟซบุ๊ก มีคนติดต่อซื้อ 80,000 บาท นัดส่งมอบรถที่ ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส วันที่ 5 พ.ย. มีชาย 2 คน ขับขี่รถ จยย.มารับรถ

มีพยานยืนยันว่า 1 ใน 2 คน ที่มารับรถเป็นนายฮัสบูเล๊าะ สะนิ

ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุทั้งไปและกลับกว่า 80 กิโลเมตร พบว่าคนร้ายเดินทางออกมาจากพื้นที่ อ.ตากใบ มียานพาหนะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ 6 คัน ตรวจยึดแล้ว 5 คัน

ผบ.ตร. ให้เปิดปฏิบัติการขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ และ นายอุสมัน สะนิ รับสารภาพว่าร่วมกันกับพวกก่อเหตุ พิสูจน์ทราบรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิด 9 คน ศาล จ.นราธิวาส อนุมัติหมายจับ นายฮัสบูเล๊าะ สะนิ นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ นายอับดุลมาทิน มามะ นายอุสมัน สะนิ นายอับดุลฮาฟิซ ดือเระ นายวาฟี สะปาดี นายอีซาล สาและ นายไซปูรูสมัน มามะ และนายมูฮำหมัดฮาฟิสเจะดือราแม

ตำรวจจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุ 2 ราย ส่วนอีก 7 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่พักแฟลตที่กำลังซ่อมแซม เร่งซ่อมแซมและพร้อมสนับสนุนในสิ่งที่หน่วยขาดแคลน พูดคุยให้กำลังใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ตำรวจมีขวัญกำลังใจในการทำงาน

ประสาน นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส ให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จ.นราธิวาส มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกายไปแล้ว จำนวน 46 ราย เป็นเงิน 950,000 บาท แบ่งเป็นกรณีเสียชีวิต 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ 45 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ 46 ราย ทั้งสิ้น 6,146,414 บาท

ผบ.ตร.ให้เร่งติดตามคนร้ายคดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า 2 ครั้ง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่การรถไฟเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย ตำรวจสืบสวนจากชิ้นส่วนถังแก๊สและชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วนเป็นระเบิดแบบเหยียบ เอามาประกอบแผนประทุษกรรมจนทราบว่าเป็นเครือข่าย นายอัซมัน เปาะเลาะ

คำรับสารภาพของ นายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ ยอมรับว่าก่อนถูกควบคุมได้รับคำสั่งจาก นายอับดุล ให้ร่วมกับ นายอัซมัน เปาะเลาะ สำรวจดูเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ บ้านท่าโพธิ์ เพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุ และก่อนเกิดเหตุมีพยานพบเห็นนายอัซมัน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก 2 คน ออกจากที่เกิดเหตุก่อนเกิดระเบิด 30 นาที พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุ อยู่ระหว่างติดตามตัว

...

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า “คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญสืบสวนรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และฐานข้อมูลความเชื่อมโยงของคดี จนนำไปสู่การออกหมายจับต้องขอบคุณและชมเชยคณะทำงานที่สามารถคลี่คลายทั้ง 2 คดี ได้สั่งขยายผลติดตามผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายจับมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งเร่งการก่อสร้างซ่อมแซมที่พัก โดย ตร.พร้อมสนับสนุนงบประมาณ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”

บทบาทของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กับภาวะผู้นำ ไม่ทอดทิ้งหน่วยไว้ด้านหลัง โดยเฉพาะพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ลงพื้นที่ดูแลสวัสดิการ ขวัญกำลังใจ เร่งฟื้นฟูที่พัก เยียวยาจิตใจและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

สร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจในพื้นที่ มีแรงกายแรงใจทำงานแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

เพราะ ผบ.ตร.พร้อมรบเคียงบ่าเคียงไหล่พวกเขา.

ทีมข่าวอาชญากรรม

...